ยอดขายรถยนต์นั่งดันตลาดรถยนต์พฤษภาคมโต 0.5%

ยอดขายรถยนต์นั่งดันตลาดรถยนต์พฤษภาคมโต 0.5%

ยอดขายรวม 65,088 คัน รถยนต์นั่งเติบโต 29.4% ด้วยยอดขาย 25,985 คัน

นายศุภกร รัตนวราหะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย รายงานสถิติการขายรถยนต์ประจำเดือนพฤษภาคม 2566 ด้วยยอดขาย 65,088 คัน เพิ่มขึ้น 0.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ตลาดรถยนต์นั่งเดินหน้าเป็นอย่างดีด้วยยอดขาย 25,985 คัน เติบโตถึง 29.4% ในขณะที่รถยนต์เพื่อการพาณิชย์ชะลอตัวต่อเนื่องด้วยตัวเลขการขาย 39,103 คัน ลดลง 12.4% และรถกระบะขนาด 1 ตัน ในเซกเมนท์นี้ชะลอตัวเช่นกันที่ 27,323  คัน ลดลง 19.2%  

  • ประเด็นสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อตลาดรถยนต์

ตลาดรถยนต์เดือนพฤษภาคม 2566 มีปริมาณการขายที่ 65,088 คัน เพิ่มขึ้น 0.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยตลาดรถยนต์นั่งเป็นเซกเมนต์สำคัญที่ผลักดันการเจริญเติบโตของตลาดรถยนต์เดือนนี้ที่ 29.4% ด้วยยอดขาย 25,985 คัน ในขณะที่รถเพื่อการพาณิชย์ชะลอตัวต่อเนื่องที่ 12.4% ด้วยยอดขาย 39,103 คัน ในส่วนของตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน ชะลอตัวเช่นกันที่ 19.2% และยอดขาย 27,323 คัน เป็นผลมาจากการชะลอการตัดสินใจซื้ออย่างต่อเนื่องของภาคธุรกิจ และภาคประชาชน เพื่อรอความชัดเจนทางด้านนโยบายเศรษฐกิจของภาครัฐ ในขณะที่ตลาดรถยนต์นั่งโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ECO Car มีอัตราการเจริญเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับการเดินทางที่เป็นส่วนตัวของประชาชนภายหลังการแพร่ระบาดของโควิด

ตลาดรถยนต์ในเดือนมิถุนายน ยังมีแนวโน้มชะลอตัวต่อเนื่อง จากความผันผวนทางเศรษฐกิจที่ยังดำเนินต่อไป รวมทั้งความมั่นใจของผู้บริโภคที่ยังไม่ดีขึ้น ตลอดจนความเข้มงวดของสถาบันการเงินที่มีความกังวลต่อกำลังซื้อของผู้บริโภค อันส่งผลโดยตรงต่อความสามารถในการผ่อนชำระของประชาชนอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ที่ต้องการความคล่องตัวทางเศรษฐกิจเป็นตัวขับเคลื่อนที่สำคัญ

  • ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์ เดือนพฤษภาคม 2566
  1. ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 65,088 คัน เพิ่มขึ้น 5%

อันดับที่ 1 โตโยต้า           21,296 คัน            ลดลง      4.0%       ส่วนแบ่งตลาด 32.7%

อันดับที่ 2 อีซูซุ                13,281 คัน            ลดลง      15.6%     ส่วนแบ่งตลาด 20.4%

อันดับที่ 3 ฮอนด้า              6,697 คัน             เพิ่มขึ้น     33.0%    ส่วนแบ่งตลาด 10.3%

  1. ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 25,985 คัน เพิ่มขึ้น4%

อันดับที่ 1 โตโยต้า           8,266 คัน              เพิ่มขึ้น    43.2%     ส่วนแบ่งตลาด 31.8%

อันดับที่ 2 ฮอนด้า            4,415 คัน              เพิ่มขึ้น    38.4%     ส่วนแบ่งตลาด 17.0%

อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ           1,506  คัน             ลดลง      27.5 %   ส่วนแบ่งตลาด  5.8%

  1. ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 39,103 คัน ลดลง 4%

อันดับที่ 1 อีซูซุ                13,281  คัน           ลดลง      15.6.%    ส่วนแบ่งตลาด 34.0%

อันดับที่ 2 โตโยต้า           13,030 คัน            ลดลง      20.6%     ส่วนแบ่งตลาด 33.3%

อันดับที่ 3 ฟอร์ด                 2,993 คัน            เพิ่มขึ้น    32.1%     ส่วนแบ่งตลาด  7.7%

  1. ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV*)

ปริมาณการขาย 27,323 คัน ลดลง 19.2%                                

อันดับที่ 1 อีซูซุ               12,131  คัน           ลดลง      14.5%     ส่วนแบ่งตลาด 44.4%

อันดับที่ 2 โตโยต้า          10,205 คัน           ลดลง      26.6%     ส่วนแบ่งตลาด 37.3%

อันดับที่ 3 ฟอร์ด                2,993 คัน            เพิ่มขึ้น    32.1%     ส่วนแบ่งตลาด  11.0%

*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน) 4,896 คัน

อีซูซุ 2,076 คัน – โตโยต้า 1,568 คัน -ฟอร์ด 707 คัน – มิตซูบิชิ 460 คัน – นิสสัน 85 คัน

  1. ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 22,427 คัน ลดลง 3%                                

อันดับที่ 1 อีซูซุ                 10,055 คัน            ลดลง     22.0%   ส่วนแบ่งตลาด 44.8%

อันดับที่ 2 โตโยต้า               8,637 คัน            ลดลง   27.2%     ส่วนแบ่งตลาด 38.5%

อันดับที่ 3 ฟอร์ด                 2,286 คัน            เพิ่มขึ้น    24.8 %   ส่วนแบ่งตลาด  10.2%      

  • สถิติการจำหน่ายรถยนต์ เดือนมกราคม – พฤษภาคม 2566
  1. ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 341,691 คัน ลดลง 9%                             

อันดับที่ 1 โตโยต้า            115,982 คัน        ลดลง        4.2%   ส่วนแบ่งตลาด 33.9%

อันดับที่ 2 อีซูซุ                    73,776 คัน        ลดลง     17.8%   ส่วนแบ่งตลาด 21.6%

อันดับที่ 3 ฮอนด้า                39,067 คัน        เพิ่มขึ้น     9.2%    ส่วนแบ่งตลาด 11.4%

  1. ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 123,754 คัน เพิ่มขึ้น 4%                                

อันดับที่ 1 โตโยต้า             43,630 คัน         เพิ่มขึ้น    32.2%     ส่วนแบ่งตลาด 35.3%

อันดับที่ 2 ฮอนด้า             25,984 คัน          ลดลง      4.0%       ส่วนแบ่งตลาด 21.0%

อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ              8,227 คัน          ลดลง     9.7%        ส่วนแบ่งตลาด  6.6%

  1. ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 217,937 คัน ลดลง 3%                     

อันดับที่ 1 อีซูซุ                    73,776 คัน          ลดลง      17.8%     ส่วนแบ่งตลาด 33.9%

อันดับที่ 2 โตโยต้า               72,352 คัน          ลดลง      17.8%     ส่วนแบ่งตลาด 33.2%

อันดับที่ 3 ฟอร์ด                   16,902 คัน          เพิ่มขึ้น    39.2%     ส่วนแบ่งตลาด  7.8%

  1. ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV*)

ปริมาณการขาย 155,613 คัน ลดลง 18.2%

อันดับที่ 1 อีซูซุ                     67,533 คัน          ลดลง      18.4%     ส่วนแบ่งตลาด 43.4%

อันดับที่ 2 โตโยต้า                59,741 คัน          ลดลง      22.0%    ส่วนแบ่งตลาด 38.4%

อันดับที่ 3 ฟอร์ด                    16,902 คัน          เพิ่มขึ้น    39.2%     ส่วนแบ่งตลาด 10.9%

*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน) 28,067 คัน

โตโยต้า 10,201 คัน – อีซูซุ 9,946 คัน – ฟอร์ด 5,106 คัน – มิตซูบิชิ 2,290 คัน – นิสสัน 524 คัน

  1. ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย  127,546 คัน ลดลง 6%

อันดับที่ 1 อีซูซุ               57,587 คัน            ลดลง  23.5%         ส่วนแบ่งตลาด 45.1%

อันดับที่ 2 โตโยต้า          49,540 คัน            ลดลง  23.3%         ส่วนแบ่งตลาด 38.8%

อันดับที่ 3 ฟอร์ด              11,796 คัน            เพิ่มขึ้น 14.6%        ส่วนแบ่งตลาด  9.2% 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *