รถปอร์เช่ 963 หมายเลข 7 จากทีม ปอร์เช่ เพนสเก้ มอเตอร์สปอร์ต (Porsche Penske Motorsport) คว้าชัยชนะในการแข่งขัน 24 Hours of Daytona โดยนักขับ เฟลิเป้ นาเซอร์ (Felipe Nasr) นักขับจากบราซิล/ เดน คาเมรอน (Dane Cameron) จากสหรัฐอเมริกา และ แมตต์ แคมป์เบลล์ (Matt Campbell) จากออสเตรเลีย รวมถึง โจเซฟ นิวการ์เดน (Josef Newgarden) ดาราอินดี้คาร์ชาวอเมริกัน ร่วมกันสร้างประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญด้วยการคว้าชัยให้กับปอร์เช่ (Porsche) เพิ่มเป็น 19 ครั้ง รถแข่งหมายเลข 6 จบอันดับ 4 ด้วยนักแข่ง มาติเยอ จามิเน็ต (Mathieu Jaminet) ชาวฝรั่งเศส, นิค แทนดี้ (Nick Tandy) สหราชอาณาจักร, ลอเรนส์ วานธูร์ (Laurens Vanthoor) ชาวเบลเยียม และเควิน เอสเตร (Kévin Estre) ชาวฝรั่งเศส ส่วน Porsche 963 ซึ่งเป็นรถที่ได้รับการสนับสนุนจากทีมลูกค้าผู้มีเกียรติ อย่าง Proton Competition และ JDC-Miller MotorSports ก็สามารถคว้าอันดับตามมาติดๆ ในรุ่นเดียวกัน นอกจากนี้ในการแข่งรุ่น GTD Pro รถแข่ง Porsche 911 GT3 R จาก AO Racing ก็คว้าอันดับที่ 2 มาครอบครองได้สำเร็จ
ในการแข่งขันที่ดุเดือดและตื่นเต้นที่ได้รับความสนใจจากผู้ชมจำนวนมาก เราได้สถิติใหม่ โดยรถแข่งปอร์เช่ 963 ที่มีพละกำลัง 519 กิโลวัตต์ (706 แรงม้า) ของ ปอร์เช่ เพนสเก้ มอเตอร์สปอร์ต (Porsche Penske Motorsport) ทั้ง 2 คัน ผลัดกันขึ้นนำคู่ปรับอย่างรถ Cadillac หมายเลข 31 ซึ่งในช่วงหัวค่ำของวันเสาร์ รถหมายเลข 6 ก็ขึ้นนำเป็นครั้งแรก อย่างไรก็ตาม เกิดเหตุหลายประการทำให้รถที่ Jaminet/ Tandy/ Vanthoor/ Estre ร่วงลงมาจากอันดับนำ นอกจากนี้การพลาดจังหวะเพียงเล็กน้อยของ เควิน เอสเตร (Kévin Estre) ขณะออกจากพิทเลนในเช้าวันอาทิตย์ ได้ลดความหวังแห่งชัยชนะสำหรับรถต้นแบบไฮบริดคันนี้
ในการแข่งขันอันดุเดือดระหว่างผู้ผลิตรถในรุ่น GTP ที่อยู่ในการประกาศเตือนช่วง 15 ครั้งสุดท้ายมีความลุ้นระทึกถึงขีดสุด เพราะในช่วง 32 นาทีสุดท้ายของการต่อสู้ชิงชัยระหว่าง เฟลิเป้ นาเซอร์ (Felipe Nasr) ใน รถหมายเลข 7 -ของปอร์เช่ กับ นักแข่งชาวอังกฤษ ทอม บลอมควิสต์ (Tom Blomqvist) ที่อยู่หลังพวงมาลัยของคาดิลแลค ได้เฉือนชนะกันอย่างเข้มข้น โดยนักแข่งชาวบราซิลต้องต่อสู้กับยางที่เสื่อมสภาพ แต่ก็สามารถสกัดกั้นการโจมตีของคู่แข่งได้อย่างเยี่ยมยอด ที่น่าประหลาดใจยิ่งไปกว่านั้น คือสัญญาณธงตาหมากรุกโบกสะบัดเร็วกว่าที่คาดถึง 1.30 นาที ก่อนสิ้นสุดการแข่งขัน ถือเป็นการการันตีชัยชนะรวมตั้งแต่ครั้งแรกในปี 2003 ให้กับปอร์เช่ และนับเป็นชัยชนะครั้งที่ 19 ของค่ายรถสปอร์ต ในการแข่งขันรายการ Daytona นี้
ไมเคิล สไตเนอร์ (Michael Steiner) สมาชิกคณะกรรมการบริหารเพื่อการพัฒนาของปอร์เช่ (Porsche) กล่าวว่า “ถือเป็นชัยชนะอันยอดเยี่ยม ที่ประเดิมการเริ่มต้นปีได้อย่างงดงาม ทีมงาน Porsche Penske Motorsport และทีมวิศวกรจากศูนย์วิจัยและพัฒนาในเมืองไวส์ซัค (Weissach) ทุกคน ทุ่มเทอย่างหนักเพื่อปูทางสู่ความสำเร็จครั้งนี้ ผมขอขอบคุณพนักงานทุกคนอย่างจริงใจ เราไม่เคยยอมแพ้และไม่ยอมให้ความยากลำบากจากปีที่แล้วมาหยุดยั้งเรา ตอนนี้ เราได้รับผลตอบแทนจากความพยายามอย่างหนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงสุดท้ายของการดวลบนสนามแข่ง ได้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นอันแรงกล้าอย่างแท้จริง ไม่มีใครยอมแพ้ ไม่มีใครถอยหนีจนกระทั่งธงตราหมากรุกโบกสะบัด ผมรู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมากและเชื่อว่าแฟนๆ มอเตอร์สปอร์ตทั่วโลกต้องรู้สึกเช่นเดียวกันอย่างแน่นอน”
โธมัส เลาเดนบัค (Thomas Laudenbach) รองประธานฝ่ายมอเตอร์สปอร์ตของ ปอร์เช่ (Porsche) กล่าวด้วยความยินดี “มันยากที่จะถ่ายทอดอารมณ์ออกมาเป็นคำพูด ที่พวกเราคว้าชัยชนะ Daytona 2024 มาได้ มันสุดยอดมาก ผมไม่เคยเห็นการแข่งขันอันน่าตื่นเต้นขนาดนี้มาก่อน วันนี้เราพิชิตหนึ่งในการแข่งขันที่ยิ่งใหญ่ รถแข่งของเราทำงานได้อย่างไร้ที่ติ รถแข่งปอร์เช่ 963 ทั้ง 4 คัน ซึ่ง 2 คันของ Porsche Penske Motorsport และอีก 2 คันจากทีมลูกค้าที่แข็งแกร่งของเรา สามารถทำผลงานได้ดีเยี่ยมโดยไม่มีปัญหาทางเทคนิคที่น่ากังวลใดๆ ถือว่าประสบความสำเร็จมาก สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นได้ด้วยการทุ่มเทจากทุกคนที่เกี่ยวข้อง ขอขอบคุณทุกคนอย่างยิ่ง! และตำแหน่งรองชนะเลิศของ Porsche 911 GT3 R จากทีม AO Racing ในรุ่น GTD Pro ก็นับว่ายอดเยี่ยมอย่างแท้จริง การเข้าร่วมแข่งขันในรายการ Daytona นับเป็นการเดินทางที่คุ้มค่าสำหรับเรา”
โรเจอร์ เพนส์เก้ (Roger Penske) ผู้ก่อตั้งและประธานเพนส์เก้ คอร์ปอเรชั่น (Penske Corporation) กล่าว “นับเป็นวันอันแสนวิเศษสำหรับพวกเรา ชาว ปอร์เช่ เพนสเก้ มอเตอร์สปอร์ต (Porsche Penske Motorsport) รถปอร์เช่ของเราทั้ง 2 คันทำผลงานความเร็วที่ยอดเยี่ยม แต่เหนือสิ่งอื่นใด ความน่าเชื่อถือและการดำเนินงานของทีมของเรา ทำให้เราสามารถคว้าชัยชนะโดยรวมเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1969 ขอแสดงความยินดีกับองค์กรปอร์เช่และเพนส์เค ทั้งองค์กร ต่อชัยชนะอันยิ่งใหญ่นี้”
ผลงานอันยอดเยี่ยมจากทีมลูกค้าในรุ่น GTP และ GTD-Pro
รถแข่งปอร์เช่ 963 ทั้งสองคันจากทีมลูกค้า โปรตอน คอมพีทิชัน (Proton Competition) และ เจซี-มิลเลอร์ มอเตอร์สปอร์ต (JDC-Miller MotorSports) คว้าอันดับที่ 5 และ 6 ในรุ่น GTP ส่งผลให้ปอร์เช่กวาดอันดับต้นๆ อย่างสวยงาม ทั้งสองทีมต่างแสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการขึ้นแท่นโพเดียมตลอดการแข่งขัน นักขับมากประสบการณ์และนักแข่งดาวรุ่งในรถหมายเลข 5 และ 85 โชว์ฝีมือการขับขี่อันยอดเยี่ยมด้วยเวลาต่อรอบที่น่าทึ่งและการแข่งขันที่ไร้ข้อผิดพลาด
ส่วนการแข่งประเภท GTD Pro นั้น เอโอ เรซซิ่ง (AO Racing) สามารถคว้าอันดับ 2 ในรุ่น GTD Pro ด้วยรถแข่งปอร์เช่ 911 GT3 R หมายเลข 77 “Rexy” โดย ไมเคิล คริสเตนเซ่น (Michael Christensen) นักขับจากเดนมาร์ก, ลอริน ไฮน์ริช (Laurin Heinrich) อดีตนักแข่ง Porsche Junior จากเยอรมนี และ เซบาสเตียน พริออลซ์ (Sebastian Priaulx) จากสหราชอาณาจักร ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ไร้ที่ติ เซบาสเตียน โกลซ์ (Sebastian Golz) ผู้จัดการโครงการ ปอร์เช่ 911 จีที3 อาร์ (Porsche 911 GT3 R) กล่าว “การแข่งขัน 24 ชั่วโมงในปีนี้ ได้ย้ำเตือนอีกครั้งว่า คุณต้องต่อสู้จนถึงวินาทีสุดท้าย เอโอ เรซซิ่ง (AO Racing) รักษาความนิ่งและคว้าอันดับ 2 ในการแข่งขันครั้งแรกในรุ่น GTD Pro ซึ่งเป็นผลงานที่ยอดเยี่ยม รถแข่งทุกคันสามารถเข้าเส้นชัยได้ สำหรับ ไรท์ มอเตอร์สปอร์ต (Wright Motorsports) สามารถคว้าอันดับ 7 ในการแข่งขันอันยาวนานและดุเดือดนี้ ถือเป็นผลงานที่ยอดเยี่ยมที่สุดแล้ว ส่วนรถแข่ง 911 คันอื่นๆ ที่ขับโดย อันเดรตติ มอเตอร์สปอร์ต (Andretti Motorsports), เคลลี่มอส กับ ไรลีย์ (Kellymoss with Riley) และ เอ็มดีเค มอเตอร์สปอร์ต (MDK Motorsports) จบการแข่งขันในอันดับที่ 9, 11 และ 12 ตามลำดับ”
ปอร์เช่ คว้าชัยชนะประเดิมฤดูกาล IMSA อย่างสวยงาม
ชัยชนะอันทรงเกียรติในรายการระดับคลาสสิคที่ฟลอริด้า ส่งให้ปอร์เช่ครองตำแหน่งผู้นำในตารางคะแนนประเภทผู้ผลิต (Manufacturers’ Championship) และภายหลังการแข่งขันรอบเปิดฤดูกาล เหล่านักขับผู้คว้าชัยในรถแข่งหมายเลข 7 ยังขึ้นนำอันดับต้นของตารางคะแนนนักขับ (Drivers’ Leaderboard) อีกด้วย การแข่งขันรอบที่สองของรายการ IMSA WeatherTech SportsCar Championship มีกำหนดจัดขึ้น และจะเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญ นั่นคือรายการดั้งเดิมอย่าง 12 Hours of Sebring ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 16 มีนาคมนี้ การแข่งขันสุดทรหดนี้ยังเป็นส่วนหนึ่งของการแข่งชิงชัย Michelin Endurance Cup อีกด้วย
ความคิดเห็นจากนักแข่งหลังการแข่งขัน
เฟลิเป้ นาเซอร์/Felipe Nasr (Porsche 963 #7)“ทันทีที่ข้ามเส้นชัย ผมต้องใช้เวลาซักพักเพื่อให้ทุกอย่างมันจมลงไปในหัว มันเหลือเชื่อมากที่ผลการตัดสินของการแข่งขัน 24 ชั่วโมง ต้องมาวัดกันแบบช่วงต่อช่วงในช่วงท้ายของการแข่งขัน รถคาดิแลคแข็งแกร่งมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงท้ายๆ เมื่ออุณหภูมิสูงขึ้น เราทุ่มเททุกอย่างทั้งกลยุทธ์และการขับขี่เพื่อคว้าชัยชนะครั้งนี้ และมันก็ได้ผล ผมภูมิใจในทุกคนในทีมมากๆ ครับ”
แมตต์ แคมป์เบลล์/Matt Campbell (ปอร์เช่ 963 #7) “พวกเราชนะการแข่งขัน 24 Hours of Daytona มันยอดเยี่ยมมาก! ผมไม่รู้จะขอบคุณเพื่อนร่วมทีม โจเซฟ, เฟลิเป้ และ เดน ได้ยังไง ทุกคนในทีมทำงานกันได้อย่างสมบูรณ์แบบ การต่อสู้กับคาดิลแลคนี่ดุเดือดเหลือเชื่อ ทั้งสลับนำ สลับตามกันมาตลอดการแข่งขัน ความเข้มข้น ความตื่นเต้น รวมถึงความเหนื่อยล้า มันมีมาครบหมด ตอนนี้ถึงเวลาฉลองความสำเร็จของเราแล้ว!”
เดน คาเมรอน/Dane Cameron (ปอร์เช่ 963 #7) “นี่คือวันที่ยอดเยี่ยมสำหรับพวกเราทุกคน ปอร์เช่ 963 แข็งแกร่งมากในการแข่งขันวันนี้ และแสดงให้เห็นว่าเราได้พัฒนาเป็นอย่างมากในด้านความน่าเชื่อถือตลอดช่วงฤดูหนาวที่ผ่านมา ผมภูมิใจในทุกๆ คนที่ทำให้เราประสบความสำเร็จในครั้งนี้ ทีมของเราทำงานได้อย่างไร้ที่ติ นี่คือชัยชนะครั้งแรกของ 963 ในการแข่งขันที่ยิ่งใหญ่อย่างแท้จริง รวมถึงชัยชนะ overall ครั้งแรกของผมในการแข่งขัน Daytona 24 Hours มันดีไปกว่านี้ไม่ได้แล้ว”
โจเซฟ นิวการ์เดน/Josef Newgarden (ปอร์เช่ 963 #7) “ผมมีความสุขและภูมิใจอย่างมาก พวกเรามีรถแข่งที่ยอดเยี่ยม การผนึกกำลังกันของปอร์เช่และทีมเพนส์เค่ คือสุดยอดกลยุทธ์ ขอบคุณทุกคนที่ช่วยเหลือเราจนได้รับชัยชนะที่ยิ่งใหญ่นี้ การแข่งขัน 24 ชั่วโมงนั้น จำเป็นต้องเตรียมความพร้อมอย่างเข้มข้นตลอดหลายเดือน ผมคิดว่าพวกเราสมควรได้รับชัยชนะครั้งนี้ นี่คือจุดเริ่มต้นที่ยอดเยี่ยมของปี ขอให้ทีมประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่องไปตลอดทั้งฤดูกาล”
ซิโอ ปิคาเรลโล/Alessio Picariello (ปอร์เช่ 963 #5) “ผมเหนื่อยสุดๆ แต่ก็โล่งอกและดีใจมากอเลสครับ มันเป็นสุดสัปดาห์ที่เข้มขันมาก ผมได้เรียนรู้หลายสิ่งอย่างเหลือเชื่อ แถมยังมีอาการไข้ในวันศุกร์อีกด้วย แต่มันไม่สำคัญ พอผมขึ้นไปอยู่ในรถ อะดรีนาลีนก็ทำงานเต็มที่ ผมไม่ทำอะไรผิดพลาดเลย พารถหมายเลข 5 ของเราอยู่ในเส้นทางที่ดี ดังนั้นผมพอใจกับผลงานของตัวเองมากครับ”
ริชาร์ด เวสต์บรูก/Richard Westbrook (ปอร์เช่ 963 #85) “เกิดเรื่องดีๆ ขึ้นมากมายครับ เราทุกคนปลื้มใจที่ได้จบการแข่งขัน 24 ชั่วโมงครั้งแรกกับ Porsche 963 และยังได้คะแนนมากมายจากการแข่งนี้ ความจริงที่ว่าเราสามารถผ่านการแข่งสุดโหดนี้มาได้ก็ต้องขอบคุณรถที่ดีมาก คู่กับการสนับสนุนชั้นยอดจากปอร์เช่ น่าเสียดายที่ปัญหาเล็กน้อยส่งผลให้เราชะงักไปบ้างในช่วงท้ายๆ ตอนนี้ผมตื่นเต้นที่จะไป Sebring แล้วครับ เหมือนเด็กน้อยจะได้ไปร้านขนมเลย”
มิคาเอล คริสเตนเซ่น/Michael Christensen (ปอร์เช่ 911 GT3 R #77)“ผมพอใจกับผลงานมากครับ ถึงแม้จะออกสตาร์ทจากตำแหน่งหัวแถว (pole position) แต่การคว้าอันดับสองถือเป็นผลงานที่ดีที่สุดที่เราสามารถทำได้ในการแข่งขันครั้งนี้ ตั้งแต่ชั่วโมงแรก เรารู้แล้วว่าเราอาจจะยังเร็วไม่พอ เราต้องขับขี่อย่างไร้ที่ติ เข้าพิตอย่างไร้ข้อผิดพลาด และใช้กลยุทธ์ที่ดีที่สุด นั่นคือสิ่งที่เราสามารถทำได้ตลอดการแข่งขัน และทุกคนก็ทำหน้าที่ของตัวเองได้อย่างยอดเยี่ยม”