และ โรเบิร์ต แมคอินไทร์ (Robert MacIntyre) เตรียมร่วมศึก ปอร์เช่ สิงคโปร์ คลาสสิก (Porsche Singapore Classic) ที่เต็มไปด้วยนักกอล์ฟระดับดาวเด่น
เหล่าแฟนๆ กีฬากอล์ฟสามารถรอชมการแข่งขันที่ดุเดือดในศึกปอร์เช่ สิงคโปร์ คลาสสิก (Porsche Singapore Classic) ครั้งที่ 2 ที่จะจัดขึ้นที่สนาม Classic Course ของ ลากูน่า เนชันแนล กอล์ฟ รีสอร์ท คลับ (Laguna National Golf Resort Club) ซึ่งจะมีนักกอล์ฟระดับโลกเข้าร่วมแข่งขันมากมาย โดยมี พอล เคซีย์ (Paul Casey) เจ้าของแชมป์หลายรายการเป็นผู้นำทัพ นอกจากนี้ ยังมีนักกอล์ฟชั้นนำจากเอเชียหลายคน รวมถึง โรเบิร์ต แมคอินไทร์ (Robert MacIntyre) ดาวรุ่งจากสกอตแลนด์ ขณะที่แชมป์เมเจอร์ จิมมี่ วอล์กเกอร์ (Jimmy Walker) ได้ประกาศเข้าร่วมแข่งขันในศึกดีพี เวิลด์ ทัวร์ (DP World Tour) ครั้งนี้แล้วเช่นกัน

การแข่งขัน ปอร์เช่ สิงคโปร์ คลาสสิก (Porsche Singapore Classic) ปีนี้จะเต็มไปด้วยเหล่าดาวดังแห่งวงการกอล์ฟ โดยรายการแข่งขัน ดีพี เวิลด์ ทัวร์ (DP World Tour) ครั้งที่ 2 นี้ได้รับการการันตีคุณภาพด้วยรายชื่อนักกอล์ฟระดับโลกและผู้ท้าชิงแชมป์จากเอเชีย นำโดย โรเบิร์ต แมคอินไทร์ (Robert MacIntyre) เจ้าของแชมป์ 2 สมัยจาก พีจีเอ ทัวร์ (PGA Tour) ในปี 2024 ร่วมลงสนามพร้อมกับ พอล เคซีย์ (Paul Casey) แบรนด์แอมบาสเดอร์ของปอร์เช่จากอังกฤษ และแชมป์เมเจอร์จากสหรัฐอเมริกา จิมมี่ วอล์กเกอร์ (Jimmy Walker) ซึ่งจะมาชิงตำแหน่งแชมป์และคว้ารางวัลพิเศษ ปอร์เช่ ไทคานน์ เทอร์โบ เอส (Porsche Taycan Turbo S) ที่สนาม ลากูน่า เนชันแนล กอล์ฟ รีสอร์ท คลับ (Laguna National Golf Resort Club) ระหว่างวันที่ 20 – 23 มีนาคม 2025 และคาดการณ์ว่านักกอล์ฟระดับท็อปคนอื่นๆ จะถูกประกาศเข้าร่วมแข่งขันเพิ่มเติมก่อนถึงวันสิ้นสุดการลงทะเบียน
หลังจากทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมเมื่อปีที่แล้ว พอล เคซีย์ (Paul Casey) อดีตนักกอล์ฟมือวางอันดับ 3 ของโลก ตั้งเป้าคว้าแชมป์ ดีพี เวิลด์ ทัวร์ (DP World Tour) สมัยที่ 16 ในการลงแข่งขันครั้งที่ 2 ของเขา


“ผมตื่นเต้นมากที่จะได้กลับมาสิงคโปร์เพื่อแข่งขัน ปอร์เช่ สิงคโปร์ คลาสสิก (Porsche Singapore Classic) ในฐานะที่ผมเป็นแฟนตัวยงของปอร์เช่ ผมรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวปอร์เช่ และได้ร่วมเฉลิมฉลองโครงการกอล์ฟของเราทั่วโลก สิงคโปร์เป็นสถานที่ที่พิเศษเสมอ และโอกาสที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการแข่งขันระดับพรีเมียมแบบนี้มีไม่บ่อยนัก ผมตั้งตารอมันจริงๆ ผมรักที่นี่มาก!” เคซีย์กล่าว นักกอล์ฟเจ้าของแชมป์ ไรเดอร์ คัพ (Ryder Cup) 3 สมัย เคยคว้าแชมป์ในรายการของปอร์เช่มาแล้ว โดยในปี 2019 เขาชนะการแข่งขัน ปอร์เช่ ยูโรเปียน โอเพ่น (Porsche European Open) ที่เมืองฮัมบูร์ก ประเทศเยอรมนี เมื่อปีที่แล้ว เคซีย์เป็นหนึ่งในตัวเต็งที่มีลุ้นแชมป์มาโดยตลอด ก่อนที่ เยสเปอร์ สเวนส์สัน (Jesper Svensson) จะคว้าแชมป์ไปครองที่บนสนาม Classic Course
จิมมี่ วอล์กเกอร์ (Jimmy Walker) แชมป์ พีจีเอ แชมเปี้ยนชิพ (PGA Championship) 2016 ก็เคยมีช่วงเวลาที่ดีในรายการของปอร์เช่มาแล้ว โดยนักกอล์ฟจากรัฐโอคลาโฮมา (Oklahoma) เคยลงแข่งขันในรายการ ปอร์เช่ ยูโรเปียน โอเพ่น (Porsche European Open) เมื่อปี 2017 และยังคงจดจำประสบการณ์นั้นด้วยความประทับใจ “การได้ลงแข่งขันในรายการใหม่ๆ เป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นเสมอ และ ปอร์เช่ สิงคโปร์ คลาสสิก (Porsche Singapore Classic) ก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น ปอร์เช่เป็นผู้สนับสนุนวงการกอล์ฟที่ยอดเยี่ยม และผมได้สัมผัสสิ่งนี้ด้วยตัวเองที่ ปอร์เช่ ยูโรเปียน โอเพ่น (Porsche European Open) ในเยอรมนี ความมุ่งมั่นของพวกเขาต่อกีฬากอล์ฟช่วยยกระดับประสบการณ์การแข่งขันทั้งสำหรับนักกอล์ฟและแฟนๆ ผมสนุกมากกับการเล่นใน ดีพี เวิลด์ ทัวร์ (DP World Tour) ฤดูกาลนี้ และกำลังตั้งตารอคอยเวลาที่ยอดเยี่ยมอีกครั้งที่สิงคโปร์” วอล์กเกอร์กล่าว ซึ่งตลอดอาชีพการเล่นของเขา เขาคว้าแชมป์มาแล้วถึง 11 รายการ“


โรเบิร์ต แมคอินไทร์ (Robert MacIntyre) เคยลงแข่งขันใน สิงคโปร์ คลาสสิก (Singapore Classic) 2023 และประทับใจกับประสบการณ์ที่ได้รับ ทำให้เขาตั้งตารอที่จะกลับมาลงสนามที่ ลากูน่า เนชันแนล (Laguna National) อีกครั้ง “ผมดีใจมากที่ได้กลับมาแข่งขันในรายการ ปอร์เช่ สิงคโปร์ คลาสสิก (Porsche Singapore Classic) ปีนี้ แฟน ๆ ให้การต้อนรับอย่างดี และสนามลากูน่า เนชันแนลก็เป็นสนามที่เหมาะสมในการเริ่มต้นช่วงการแข่งขันเอเชียนสวิงของฤดูกาล” แมคอินไทร์กล่าว เจ้าของแชมป์รายการใหญ่ของ ดีพี เวิลด์ ทัวร์ (DP World Tour) อย่าง เจเนซิส สก็อตติช โอเพ่น (Genesis Scottish Open) และ อาร์บีซี แคนาเดียน โอเพ่น (RBC Canadian Open) จาก พีจีเอ ทัวร์ (PGA Tour) ยังกล่าวเสริมว่า “ผมต้องการพัฒนาฝีมือต่อไป เพื่อไต่อันดับโลกให้สูงขึ้น และแข่งขันในรายการที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ปอร์เช่ สิงคโปร์ คลาสสิก (Porsche Singapore Classic) เป็นหนึ่งในรายการสำคัญของปฏิทินกอล์ฟระดับโลก และผมตื่นเต้นที่ได้กลับมาเป็นส่วนหนึ่งของการแข่งขันนี้อีกครั้ง” แมคอินไทร์ที่เพิ่งติดอันดับ Top 20 ของโลกกล่าว และพร้อมลุยศึกใหญ่อีกครั้งที่สิงคโปร์
ความหวังในการคว้าแชมป์จากเอเชีย
รายชื่อนักกอล์ฟที่มีโอกาสคว้าแชมป์ ซึ่งบางคนอาจได้เปรียบจากการเล่นในภูมิภาคเอเชีย รวมถึง ห่าวตง ลี (Haotong Li) จากจีน เจ้าของแชมป์ ดีพี เวิลด์ ทัวร์ (DP World Tour) สมัยที่ 4 ที่กาตาร์เมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา, กาวิน กรีน (Gavin Green) แชมป์จาก เอเชียน ทัวร์ (Asian Tour) จากมาเลเซีย และ กิรเดช อภิบาลรัตน์ (Kiradech Aphibarnrat) จากไทย เจ้าของแชมป์ ดีพี เวิลด์ ทัวร์ 4 สมัย ซึ่งเมื่อปีที่แล้วเกือบคว้าแชมป์ก่อนพ่ายให้กับ เยสเปอร์ สเวนส์สัน (Jesper Svensson) ในรอบเพลย์ออฟ นอกจากนี้ ยังมีนักกอล์ฟเอเชียชื่อดังเข้าร่วมแข่งขัน ได้แก่ เหวินอี้ ติง (Wenyi Ding) จากจีน และ เคอิตะ นากาจิมะ (Keita Nakajima) จากญี่ปุ่น เบรย์เดน ลี (Brayden Lee) นักกอล์ฟสมัครเล่นวัย 17 ปีจากสิงคโปร์ กำลังเตรียมตัวสำหรับสัปดาห์ที่พิเศษสุดในชีวิต หลังจากคว้าสิทธิ์ลงแข่งรายการนี้จากรอบคัดเลือกในบ้านเกิด ขณะที่นักกอล์ฟที่ได้รับโอกาสเข้าร่วมการแข่งขันจากรอบคัดเลือกยังรวมถึง เนติพงษ์ ศรีทอง (Natipong Srithong) จากไทย และ ชินอิจิ มิซูโนะ (Shinichi Mizuno) จากญี่ปุ่น


รางวัลโฮลอินวัน: ปอร์เช่ ไทคานน์ เทอร์โบ เอส (Taycan Turbo S)
ทั้งนักกอล์ฟและผู้เข้าชมการแข่งขัน ปอร์เช่ สิงคโปร์ คลาสสิก (Porsche Singapore Classic) ต่างจดจ้องกับรางวัลพิเศษสำหรับการทำ โฮลอินวัน (Hole-in-One) อีกครั้งในปีนี้ โดยผู้ที่สามารถทำโฮลอินวันได้ที่หลุม 17 ของสนาม Classic Course จะได้รับรางวัลเป็น ปอร์เช่ ไทคานน์ เทอร์โบ เอส (Porsche Taycan Turbo S) สี โอ๊ค กรีน เมทัลลิก (Oak Green Metallic) นอกจากนี้ แฟนกอล์ฟที่เข้าชมการแข่งขันยังมีโอกาสร่วมสนุกกับกิจกรรม ปอร์เช่ ไทคานน์ ชาเลนจ์ (Porsche Taycan Challenge) ซึ่งจัดขึ้นทุกวันในโซน Public Village โดยผู้ที่ทำผลงานได้ดีที่สุดจะได้เข้าสู่รอบ Shootout ในวันอาทิตย์ เพื่อลุ้นโอกาสคว้ารางวัลรถยนต์ โฮลอินวัน ที่หลุม 17
รถรับรองสุดพิเศษ: ไทคานน์ (Taycan) และ คาเยนน์ (Cayenne)
รถยนต์ ปอร์เช่ (Porsche) คันแรกได้มาถึงสนาม ลากูน่า เนชันแนล กอล์ฟ รีสอร์ท คลับ (Laguna National Golf Resort Club) แล้ว โดย แพทริก โบเวอร์ส (Patrick Bowers) ผู้อำนวยการบริหารการแข่งขัน ได้รับมอบรถยนต์เพื่อเป็นขบวนรถรับรอง (Courtesy Car Fleet) จำนวน 20 คันจาก อังเดร แบรนด์ (Andre Brand) ผู้จัดการทั่วไป ปอร์เช่ สิงคโปร์ (Porsche Singapore) ที่ ปอร์เช่ สตูดิโอ (Porsche Studio) ใจกลางประเทศสิงคโปร์ “เรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้สนับสนุนการแข่งขัน ปอร์เช่ สิงคโปร์ คลาสสิก 2025 (Porsche Singapore Classic 2025) อีกครั้ง ด้วยรถสปอร์ตปอร์เช่ ไทคานน์ (Taycan) และ คาเยนน์ (Cayenne) จำนวน 20 คัน ในฐานะรถรับรองอย่างเป็นทางการ” อังเดร แบรนด์ (Andre Brand) กล่าว “เราภูมิใจที่ได้มอบประสบการณ์การเดินทางที่หรูหราให้กับนักกอล์ฟตั้งแต่วินาทีที่พวกเขามาถึงสิงคโปร์” รถรับรองเหล่านี้จะถูกจัดเตรียมไว้สำหรับนักกอล์ฟที่เข้าร่วมการแข่งขันตลอดสัปดาห์ของทัวร์นาเมนต์ และหลังจากจบการแข่งขัน สำหรับผู้ที่สนใจเป็นเจ้าของรถยนต์ปอร์เช่จะได้รับข้อเสนอพิเศษที่น่าสนใจภายในงานนี้เช่นกัน
การเปิดตัว ปอร์เช่ สิงคโปร์ คลาสสิก (Porsche Singapore Classic) ครั้งแรกเมื่อปีที่แล้ว ได้สร้างความประทับใจเกินความคาดหมายตั้งแต่เริ่มต้น ด้วยความสำเร็จนี้ รายการแข่งขันได้กลายเป็นหนึ่งในไฮไลท์สำคัญของตลาดเอเชีย และตอกย้ำบทบาทของ ปอร์เช่ (Porsche) ในวงการกอล์ฟอาชีพระดับนานาชาติ


ปอร์เช่ กับ วงการกอล์ฟ
ปอร์เช่ (Porsche) มีส่วนร่วมในวงการกอล์ฟมาตั้งแต่ปี 1988 ผ่านการแข่งขัน ปอร์เช่ กอล์ฟ คัพ (Porsche Golf Cup) ซึ่งเป็นหนึ่งในกิจกรรมสำหรับลูกค้าที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดของบริษัท โดยรายการนี้ได้พัฒนาเป็นการแข่งขันระดับนานาชาติ ซึ่งล่าสุดมีลูกค้าปอร์เช่กว่า 16,000 คน เข้าร่วมในรอบคัดเลือก 229 รายการทั่วโลก และในปี 2015 ปอร์เช่ เริ่มเข้ามามีบทบาทในกอล์ฟอาชีพของประเทศเยอรมนี ด้วยการเป็นผู้สนับสนุนหลักของการแข่งขัน ดีพี เวิลด์ ทัวร์ (DP World Tour) รายการใหญ่ ปอร์เช่ ยูโรเปียน โอเพ่น (Porsche European Open) และเพื่อขยายกิจกรรมในระดับโลก ปอร์เช่ได้ก้าวสู่ตลาดเอเชียด้วยการเป็นผู้สนับสนุนหลักของ ปอร์เช่ สิงคโปร์ คลาสสิก (Porsche Singapore Classic) ตั้งแต่ปี 2024 นอกจากนี้
ปอร์เช่ยังเป็นพันธมิตรอย่างเป็นทางการในรายการแข่งขันระดับโลก เช่น โอเมก้า ยูโรเปียน มาสเตอร์ส (Omega European Masters) ที่เมืองครองส์-มอนทานา (Crans Montana) รวมถึงในกีฬากอล์ฟหญิงกับ อะมุนดี เอเวียง แชมเปี้ยนชิพ (The Amundi Evian Championship) ซึ่งตอกย้ำความมุ่งมั่นของปอร์เช่ในวงการกอล์ฟอาชีพระดับโลก อีกหนึ่งความสำเร็จของปอร์เช่ในกอล์ฟคือ ปอร์เช่ กอล์ฟ เซอร์เคิล (Porsche Golf Circle) ซึ่งเปิดตัวในปี 2017 เป็นคอมมูนิตี้ระดับนานาชาติสำหรับลูกค้าปอร์เช่ที่ชื่นชอบการเล่นกอล์ฟ โดยเปิดโอกาสให้สมาชิกได้สัมผัสประสบการณ์กอล์ฟสุดพิเศษในสถานที่และทัวร์นาเมนต์ระดับโลก ตั้งแต่ปี 2020 พอล เคซีย์ (Paul Casey) ได้เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวปอร์เช่ในฐานะ แบรนด์แอมบาสเดอร์ (Brand Ambassador) คนแรกจากวงการกอล์ฟ

