ผู้บริหารและพนักงาน ออโต้อัลลายแอนซ์ (ประเทศไทย) หรือ เอเอที บริษัทร่วมทุนระหว่างฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี และมาสด้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ร่วมฉลองความสำเร็จครบรอบ 25 ปี ของการผลิตรถยนต์คุณภาพมาตรฐานระดับโลก
“ตั้งแต่เริ่มก่อตั้งในปี พ.ศ. 2538 การร่วมทุนระหว่างฟอร์ดและมาสด้านับได้ว่าเป็นหนึ่งในความร่วมมือทางธุรกิจที่ยาวนานและประสบความสำเร็จมากที่สุดครั้งหนึ่งในอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย” มร. เคล เคิร์นส ประธานบริษัทและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เอเอที กล่าว “เอเอทีจะยังคงเป็นฐานการผลิตที่สำคัญของทั้งสองบริษัท และเราภาคภูมิใจที่ได้ส่งเสริมการเติบโตทางธุรกิจอย่างยั่งยืน สร้างงานสร้างอาชีพ และเพิ่มโอกาสการลงทุนในประเทศไทย”
เอเอทีนับเป็นโรงงานผลิตรถยนต์ที่มีขนาดใหญ่และทันสมัยที่สุดแห่งหนึ่งในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตั้งอยู่บนพื้นที่ 529 ไร่ ในนิคมอุตสาหกรรมอีสเทิร์นซีบอร์ด โดยในปี พ.ศ. 2538 ฟอร์ดและมาสด้าได้เล็งเห็นศักยภาพของประเทศไทยในการเป็นศูนย์กลางของการผลิตรถยนต์ในภูมิภาคนี้ จึงได้ลงทุนในระยะเริ่มแรกจำนวน 500 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 15,500 ล้านบาท ในการสร้างโรงงานที่มีเทคโนโลยีการผลิตอันล้ำสมัยแบบครบวงจร
เอเอทีมีมูลค่าการลงทุนในปัจจุบันรวมกว่า 1,500 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 51,000 ล้านบาท และเป็นฐานการผลิตที่สำคัญของรถกระบะ ฟอร์ด เรนเจอร์ และรถยนต์นั่งเอนกประสงค์ ฟอร์ด เอเวอเรสต์ รวมถึงรถกระบะและรถยนต์นั่งส่วนบุคคลของมาสด้า
ในช่วงเวลา 25 ปีที่ผ่านมา เอเอทีได้นำจุดแข็งทั้งของฟอร์ดและมาสด้ามาผสานรวมกันในการทำงาน สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับอุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์ในภูมิภาค โดยเอเอทีให้ความสำคัญกับทุกรายละเอียดด้านการควบคุมคุณภาพด้วยการทดสอบความทนทานทั้งภายนอกและภายในรถในทุกสภาวะอากาศอย่างเข้มข้น
การทดสอบยังรวมถึงการตรวจสอบเสถียรภาพของรถและการควบคุมรถโดยพนักงานชำนาญการ ภายใต้การจำลองการใช้งานบนสภาพถนนที่หลากหลาย เพื่อจำลองการขับขี่ในชีวิตจริง
“ผมภูมิใจมากที่ได้เป็นผู้นำของทีมงานในโรงงานที่เป็นกำลังสำคัญของทั้งฟอร์ดและมาสด้า ตลอดระยะเวลา 25 ปีที่ผ่านมา เอเอทีได้ทำหน้าที่มากกว่าเป็นสถานที่ทำงาน สำหรับพนักงานเอเอที ที่นี่เปรียบเสมือนบ้านและเพื่อนร่วมงานก็เปรียบเสมือนคนในครอบครัวเดียวกัน และเรายังมีพันธกิจร่วมกันในการผลิตและส่งมอบรถยนต์คุณภาพระดับโลกให้กับลูกค้าของเรา” มร. เคิร์นส กล่าว
