บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย ส่งมอบบีเอ็มดับเบิลยู iX xDrive50 Sport

บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย ส่งมอบบีเอ็มดับเบิลยู iX xDrive50 Sport

แก่ลูกค้าคนแรกในไทยอย่างเป็นทางการ มุ่งหน้าสู่อนาคตแห่งยนตรกรรมไฟฟ้าอย่างยั่งยืน

บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย ตอกย้ำการเป็นผู้บุกเบิกการขับเคลื่อนด้วยยานยนต์ไฟฟ้าในกลุ่มพรีเมียมของไทย ซึ่งถือเป็นหนึ่งในรากฐานสำคัญของการไปสู่เป้าหมายด้านความยั่งยืนของบีเอ็มดับเบิลยู ร่วมกับมิลเลนเนียม ออโต้ ในฐานะผู้จำหน่ายบีเอ็มดับเบิลยู มินิ และบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราดอย่างเป็นทางการ ส่งมอบบีเอ็มดับเบิลยู iX xDrive50 Sport รถยนต์อเนกประสงค์ Sports Activity Vehicle (SAV) ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% ให้แก่ลูกค้ารายแรกในไทย  

มร. อเล็กซานเดอร์ บารากา ประธานและซีอีโอ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย กล่าวว่า “ด้วยวิสัยทัศน์ของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ที่มุ่งส่งเสริมการวางรากฐาน e-mobility ของบีเอ็มดับเบิลยูในประเทศไทย การส่งมอบบีเอ็มดับเบิลยู iX xDrive50 Sport คันแรก ให้แก่คุณสมโภชน์ อาหุนัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทผู้นำด้านธุรกิจพลังงานทางเลือกด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม นับเป็นความภาคภูมิใจของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ที่ได้รับความเชื่อมั่นและความไว้วางใจในยนตรกรรมไฟฟ้าจากลูกค้าของเรา ซึ่งมีพันธกิจในการร่วมพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าและพลังงานสะอาดอย่างยั่งยืนเช่นกัน”

คุณสมโภชน์ อาหุนัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “จุดประสงค์ที่สำคัญของยานยนต์ไฟฟ้าและการนำพลังงานหมุนเวียนที่มีเสถียรภาพเข้ามาใช้ในชีวิตประจำวัน มุ่งหมายเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก อันเป็นสิ่งที่ทั่วโลกรวมทั้งประเทศไทยเองต่างก็ตั้งเป้าหมายไว้ในทุกภาคส่วน การร่วมกันใช้ยานยนต์ไฟฟ้าทั้งในภาคธุรกิจและภาคเอกชน นอกเหนือจากจะเป็นการช่วยกันลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกแล้ว ยังเป็นอีกหนึ่งความร่วมมือเพื่อช่วยทำให้ประเทศไทยสามารถก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าและชิ้นส่วนสำคัญต่างๆ ในอาเซียนได้เช่นเดียวกัน”

บีเอ็มดับเบิลยู iX xDrive50 Sport มาพร้อมเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าใหม่ล่าสุด พร้อมเทคโนโลยีขับขี่อัตโนมัติและการเชื่อมต่ออีกมากมาย รวมถึงเทคโนโลยี BMW eDrive และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบไฟฟ้าซึ่งทำงานร่วมกันเพื่อสร้างสมรรถนะการขับขี่ในระยะยาวไกลยิ่งขึ้นและอัตราเร่งที่ทรงพลัง ส่งพละกำลังรวมสูงสุด 385 กิโลวัตต์/523 แรงม้า ระบบ BMW eDrive เจเนอเรชั่นที่ห้านี้ยังทำงานพร้อมเทคโนโลยีเซลล์แบตเตอรี่ล่าสุด มอบระยะทางขับเคลื่อนตามมาตรฐาน WLTP สูงสุดถึง 630 กิโลเมตร สร้างแรงบิดรวมได้สูงสุดถึง 765 นิวตันเมตร ระบบป้องกันการลื่นไถลของล้อ (Near-actuator wheel slip limitation) ได้รับการติดตั้งควบคู่กับระบบขับเคลื่อนสี่ล้อเป็นครั้งแรก ช่วยป้องกันการลื่นไถลของล้อและเพิ่มความเสถียรภาพในการควบคุมรถยิ่งขึ้นอีกระดับ จึงโลดแล่นด้วยความเร็วจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายใน 4.6 วินาที

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *