ที่เมืองอัยเยโพล่กห่างจากอาร์กติกเซอร์เคิล 55 กม. เสร็จสิ้นลงแล้ว
“การประกาศเปิดตัวยานยนต์ใหม่ของโรลส์-รอยซ์ทุกคันถือเป็นเรื่องที่ได้รับการคาดหวังเป็นอย่างมาก แต่ Spectre เป็นยนตรกรรมที่ทุกคนรอคอยมากที่สุดในประวัติศาสตร์สมัยใหม่ของแบรนด์อย่างไม่ต้องสงสัย เนื่องจากเป็นมากกว่ายนตรกรรม มันคือสัญลักษณ์แห่งอนาคตที่สดใสและกล้าแกร่งของยานยนต์พลังงานไฟฟ้าของเรา และแสดงถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในเทคโนโลยีระบบส่งกำลังรถยนต์ของเรา
ด้วยเหตุนี้ เราจึงได้รังสรรค์โปรแกรมทดสอบยานยนต์ที่มีนัยสำคัญและเป็นประวัติการณ์เช่นเดียวกับตัวยนตรกรรม Spectre การทดสอบที่ไม่ธรรมดาในการทำให้ Spectre สามารถประมวลผลและมีสมรรถนะในการขับขี่ได้ในแบบฉบับของโรลส์-รอยซ์ โดยการทดสอบจะครอบคลุมระยะทาง 2.5 ล้านกิโลเมตร เท่ากับการจำลองการใช้งานยานยนต์โรลส์-รอยซ์เป็นเวลานานกว่า 400 ปี วันนี้ ผมสามารถยืนยันได้ว่าการเดินทางครั้งนี้เสร็จสมบูรณ์แล้วถึง 25% และผลลัพธ์ที่ได้ก็เป็นไปตามความคาดหวังที่สูงมากที่สุดของเรา” Torsten Müller-Ötvös, Chief Executive Officer, Rolls-Royce Motor Cars
“การปรับแต่งระบบขับเคลื่อนพลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบผลักดันให้ Spectre ท้าทายคำจำกัดความทางวิศวกรรมศาสตร์ การยกเลิกการใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในทำให้เราสามารถเพิ่มสมรรถนะของส่วนประกอบแต่ละส่วนของเราได้อย่างมีนัยสำคัญ และสามารถรังสรรค์ระบบสมองกลอัจฉริยะ Decentralized Intelligence เรากล่าวถึงยุคที่ไม่เคยมีมาก่อนที่ให้ประโยชน์กับเราในด้านความสามารถในการควบคุมหลายทิศทาง หลายช่องสัญญาณและสามารถเชื่อมต่อกับสถาปัตยกรรมระบบส่งกำลังอิเล็กทรอนิกส์และพลังงานไฟฟ้าขั้นสูงในฐานะของ ‘Rolls-Royce 3.0’
“ภารกิจของเราคือทำให้ส่วนประกอบและระบบแต่ละส่วนรู้จักประมวลผล แสดงออกถึงสมรรถนะ และสะท้อนถึงความเป็นตัวตนเฉกเช่นยนตรกรรมโรลส์-รอยซ์ ซึ่งทำให้เห็นการเปลี่ยนแปลงทางวิศวกรรมครั้งใหญ่จากการรังสรรค์ผลงานในเวิร์กช็อปสู่ในรูปแบบดิจิทัล ที่เมืองอัยเยโพล่ก (Arjeplog) เราได้สร้างพื้นฐานสำคัญสำหรับการสร้างสรรค์ยนตรกรรม Rolls-Royce ที่แท้จริง ไม่เพียงแต่เป็นก้าวสำคัญสำหรับแบรนด์ของเรา แต่ยังสำคัญสำหรับการผลิตยานยนต์พลังงานไฟฟ้าอีกด้วย แม้ว่าการพัฒนา Spectre เองก็ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น แต่ผมขอยืนยันว่าเทคโนโลยียานยนต์พลังงานไฟฟ้านี้ยังคงสามารถถ่ายทอดประสบการณ์การขับขี่ในแบบฉบับของโรลส์-รอยซ์” Mihiar Ayoubi, Director of Engineering, Rolls-Royce Motor Cars
ROLLS-ROYCE SPECTRE: ความเป็นมา
ในเดือนกันยายน พ.ศ. 2564 Rolls-Royce Motor Cars ได้ประกาศเปิดตัวยนตรกรรมที่สำคัญที่สุดครั้งประวัติศาสตร์นับตั้งแต่วันที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2447 เป็นต้นมา เมื่อ Charles Rolls และ Henry Royce ผู้ก่อตั้งแบรนด์ตกลงร่วมกันว่าจะสร้างสรรค์ “ยนตรกรรมที่ดีที่สุดในโลก” นั่นคือ Rolls-Royce Spectre
ในขณะที่ Rolls-Royce สร้างชื่อเสียงในการรังสรรค์สิ่งที่เรียกว่า “รถยนต์ที่ดีที่สุดในโลก” โดยใช้เครื่องยนต์สันดาปภายใน แนวคิดเรื่องการใช้พลังงานไฟฟ้าเป็นสิ่งที่แบรนด์คุ้นเคย Henry Royce เริ่มต้นจากการเป็นวิศวกรไฟฟ้าและอุทิศชีวิตส่วนใหญ่ให้กับการสร้างเครื่องยนต์สันดาปภายในที่จำลองลักษณะเฉพาะของรถยนต์พลังงานไฟฟ้าไว้ นั่นคือ การวิ่งที่เงียบ ส่งมอบแรงบิดทันที และไม่สามารถสัมผัสถึงความรู้สึกของการเปลี่ยนเกียร์
อย่างไรก็ตาม ความเกี่ยวข้องที่มีต่อผู้ก่อตั้งแบรนด์นั้นลึกซึ้งกว่ามาก เมื่อ Charles Rolls ใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้ารุ่นปี 1900 ชื่อ Columbia เขาได้คาดการณ์ไว้ว่า “รถยนต์พลังงานไฟฟ้านั้นปราศจากเสียงรบกวนและไม่ก่อมลพิษใด ๆ ไม่มีกลิ่นควันหรือการสั่นสะเทือนและน่าจะมีประโยชน์มากเมื่อสามารถติดตั้งสถานีให้บริการอัดประจุไฟฟ้าได้” Spectre คือการเกิดขึ้นที่เป็นไปตามการคาดการณ์ในครั้งนั้น
Spectre ยังเป็นตัวแทนของการรักษาคำมั่นสัญญา ในปีพ.ศ. 2554 แบรนด์ได้เปิดตัว Experimental Phantom ภายใต้รหัสชื่อ 102EX ซึ่งเป็นยนตรกรรมที่ใช้พลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบ ตามมาด้วยยนตรกรรมรหัส 103EX ซึ่งเป็นการศึกษาการออกแบบที่ล้ำสมัยที่เป็นการคาดการณ์อนาคตของยนตรกรรมพลังงานไฟฟ้าที่โดดเด่นของแบรนด์ ยนตรกรรมทดลองเหล่านี้ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากจากลูกค้าโรลส์-รอยซ์ พวกเขารู้สึกว่าคุณลักษณะของระบบส่งกำลังไฟฟ้าจะเข้ากันได้ดีกับแบรนด์ Torsten Müller-Ötvös, Rolls-Royce Chief Executive Officer ตอบรับด้วยคำมั่นสัญญาที่ชัดเจนว่า Rolls-Royce จะเริ่มนำยนตรกรรมพลังงานไฟฟ้าออกสู่ตลาดภายในทศวรรษนี้
ในเดือนกันยายนปีพ.ศ. 2564 คำพยากรณ์ของ Charles Rolls และคำสัญญาของ Torsten Müller-Ötvös นำไปสู่ช่วงเวลาแห่งประวัติศาสตร์ Rolls-Royce ยืนยันว่าได้เริ่มการทดสอบ Spectre ยนตรกรรมโรลส์-รอยซ์พลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบคันแรกในประวัติศาสตร์ ภารกิจที่ไม่ธรรมดานี้จะเป็นโปรแกรมการทดสอบรถยนต์ที่มีความท้าทายมากที่สุดเท่าที่โรลส์-รอยซ์เคยมีมา และจะทำการทดสอบในระยะทางทั้งหมด 2.5 ล้านกิโลเมตร ซึ่งเป็นการจำลองการใช้งานยนตรกรรมโรลส์-รอยซ์โดยเฉลี่ยมากกว่า 400 ปี
ROLLS-ROYCE SPECTRE: การทดสอบในช่วงฤดูหนาว
ยานยนต์ Rolls-Royce รุ่นใหม่มักเริ่มต้นชีวิตในช่วงฤดูหนาว อุณหภูมิที่ศูนย์บีสโป๊กที่แบรนด์ใช้ตั้งอยู่ในเมืองอัยเยโพล่ก ประเทศสวีเดนห่างจากอาร์กติกเซอร์เคิลเพียง 55 กิโลเมตร มีอุณหภูมิอยู่ที่ -26 องศาเซลเซียส และลดลงได้อีกถึง -40 องศาเซลเซียส
มีเหตุผลหลายประการที่ทำให้ยนตรกรรมของแบรนด์มีความสุดโต่งเช่นนี้ เมื่อสร้างยนตรกรรมต้นแบบคันแรกขึ้น ทีมวิศวกรจะทำการทดสอบขั้นพื้นฐานในสภาวะและสถานการณ์ต่าง ๆ เพื่อให้มั่นใจว่าแต่ละระบบสามารถปฏิบัติงานและทำงานขั้นพื้นฐานในสภาพแวดล้อมที่มีสภาพอากาศหนาวเย็นได้ การทดสอบนี้ผนวกเข้ากับจุดเริ่มต้นของขั้นตอนการปรับจูน ซึ่งเป็น ‘บทเรียน’ แรกของการเตรียมความพร้อมที่จะสร้างรากฐานของยานยนต์ที่คู่ควรกับแบรนด์
การทดสอบเริ่มต้นด้วยกระบวนการที่ใช้กันทั่วไปในอุตสาหกรรมยานยนต์ เช่น การทดสอบระดับเสียง การสั่นสะเทือน และความกระด้าง ตัวแปรที่ส่งผลต่อสิ่งเหล่านี้มีมากมายตั้งแต่วัสดุที่เลือกใช้สำหรับชิ้นส่วนประกอบฮาร์ดแวร์หลักไปจนถึงความหนาของยางขอบประตู ชิ้นส่วนยางบุชชิ่ง วัสดุที่มีความยืดหยุ่น และแม้แต่กาวซิลิโคนอุดตะเข็บรถ ประสิทธิภาพของตัวแปรเหล่านี้สามารถเปลี่ยนแปลงได้อย่างมากเมื่ออยู่ภายใต้อุณหภูมิที่สูงหรือต่ำเกินไปเช่นเดียวกับประสิทธิภาพของระบบฮีทเตอร์ ระบบระบายอากาศ ระบบปรับอากาศ และระบบระบายความร้อนเครื่องยนต์ของรถ
ในฐานะแบรนด์หรูอย่างแท้จริง มีองค์ประกอบอีกหนึ่งอย่างของการทดสอบในฤดูหนาวซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อโรลส์-รอยซ์ สิ่งนี้ถูกกำหนดโดยทีมวิศวกรของแบรนด์ว่าเป็น ‘de-escalated time’ เพื่อมีเวลาในการปรับจูนระบบควบคุมแชสซี การจัดการระบบส่งกำลัง และการควบคุมระบบอิเล็กทรอนิกส์ของ Spectre ให้มีความแม่นยำและสามารถสร้างประสบการณ์การขับขี่ในแบบฉบับของโรลส์-รอยซ์ได้อย่างแท้จริง
ทีมวิศวกรสร้างสถานการณ์การทดสอบในรูปแบบต่าง ๆ ที่ความเร็วต่ำซึ่งปกติสถานการณ์เหล่านี้มักจะเกิดขึ้นในขณะที่รถยนต์วิ่งในความเร็วสูง ด้วยการขับรถบนพื้นผิวถนนที่ลื่น เช่น บนหิมะและน้ำแข็ง เป็นการตั้งใจทำให้ Spectre ไม่สามารถควบคุมการทรงตัวได้ ผลการทดสอบเหล่านี้จะถูกนำมาพิจารณาและเป็นแนวทางสำหรับการปรับจูนรถในสถานการณ์ที่ถูกทดสอบและในขณะที่รถวิ่งในความเร็วต่ำ โดยทำการตั้งค่าพารามิเตอร์และปรับสมรรถนะของรถในด้านต่าง ๆ เมื่ออยู่ในสภาพอากาศหนาวเย็น เช่น การบังคับ การควบคุม ความเสถียร ความสามารถในการคาดการณ์ และการขับเคลื่อนของรถในแบบ ‘waftability’ ที่ล้วนกำหนดประสบการณ์การขับขี่ในแบบฉบับของโรลส์-รอยซ์
‘de-escalated time’ ช่วยให้ทีมวิศวกรลงลึกในรายละเอียดยิบย่อยเกี่ยวกับการตอบสนองของยานยนต์ การทำเช่นนี้ทำให้ Spectre สามารถประมวลผล แสดงออกถึงสมรรถนะ และสะท้อนถึงความเป็นโรลส์-รอยซ์ที่คู่ควรกับแบรนด์ หลังจากการทดสอบกว่าครึ่งล้านกิโลเมตรขณะนี้ขั้นตอนการทดสอบได้เสร็จสมบูรณ์แล้ว 25%
ROLLS-ROYCE SPECTRE: ROLLS-ROYCE 3.0
Rolls-Royce 3.0 แสดงถึงจุดเริ่มต้นของยนตรกรรมพลังงานไฟฟ้าที่โดดเด่นของแบรนด์ในอนาคต คำว่า ‘Rolls-Royce 3.0’ เป็นการอ้างถึงความก้าวหน้าของแบรนด์ในช่วงยุคฟื้นฟูซึ่งเริ่มต้นขึ้นที่กู้ดวูด มณฑลเวสต์ซัสเซกส เมื่อวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2546 ยนตรกรรมโรลส์-รอยซ์คันแรกที่ผลิตขึ้นที่กู้ดวูด คือ Phantom ที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นจากสถาปัตยกรรมสั่งผลิตพิเศษเฉพาะสำหรับยนตรกรรมรุ่นนี้ซึ่งก็คือ Rolls-Royce 1.0 หลังจากนั้นโครงสร้างตัวถังอลูมิเนียมสเปซเฟรมเต็มรูปแบบใหม่ที่มีความยืดหยุ่นสูงได้ถือกำเนิดขึ้น Rolls-Royce 2.0 นี้สามารถปรับขนาดให้เข้ากับรุ่นของยนตรกรรมที่หลากหลายในปัจจุบัน รวมถึง Phantom, Cullinan, Ghost และ Coachbuild ส่วน Rolls-Royce 3.0 เป็นการผสมผสานระหว่างระบบส่งกำลังไฟฟ้าเต็มรูปแบบและระบบสมองกลอัจฉริยะ Decentralized Intelligence เข้ากับสถาปัตยกรรมของแบรนด์
ในแง่ขององค์ประกอบมีการเพิ่มความเรียบง่ายของรถมากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม ข้อกำหนดทางวิศวกรรมของ Spectre คือการส่งรถที่ไม่ได้รับการปรับแต่งตามมาตรฐานไปยังโรงเรียนเตรียมความพร้อมของโรลส์-รอยซ์ที่ไม่มีใครเทียบได้ แต่อย่างไรก็ดีคำจำกัดความของวิศวกรรมได้เปลี่ยนไป ในอดีตการรังสรรค์ด้านวิศวกรรมของโรลส์-รอยซ์เกิดขึ้นในเวิร์คชอป Spectre ทำให้เห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญนี้ที่เกิดขึ้นในรูปแบบดิจิทัล
Spectre มีความเกี่ยวพันกับ Rolls-Royce มากที่สุดเท่าที่เคยมีมา และแต่ละส่วนประกอบภายในนั้นมีความชาญฉลาดกว่าในยนตรกรรมโรลส์-รอยซ์รุ่นก่อน ๆ มีฟังก์ชันการรับ-ส่ง 141,200 ข้อมูลการทำงาน มีฟังก์ชันการใช้งานมากกว่า 1,000 ฟังก์ชันพร้อมฟังก์ชันย่อยมากกว่า 25,000 ฟังก์ชันเมื่อเปรียบเทียบกับ Phantom ที่สามารถรับ-ส่งแค่ 51,000 ข้อมูลการทำงาน และมี 456 ฟังก์ชันพร้อมด้วย 647 ฟังก์ชันย่อย
ความชาญฉลาดที่เพิ่มขึ้นอย่างมากของสถาปัตยกรรมระบบส่งกำลังแบบอิเล็กทรอนิกส์และพลังงานไฟฟ้าของ Spectre ช่วยให้สามารถสื่อสารแลกเปลี่ยนข้อมูลโดยละเอียดระหว่างกว่า 1,000 ฟังก์ชันได้อย่างอิสระและโดยตรงไม่ต้องผ่านการประมวลผลข้อมูลที่ศูนย์กลาง แม้ว่าสิ่งนี้จะทำให้ทีมวิศวกรจำเป็นต้องเพิ่มความยาวของสายเคเบิลจากประมาณ 2 กิโลเมตรในยนตรกรรมโรลส์-รอยซ์รุ่นที่มีอยู่ปัจจุบันเป็น 7 กิโลเมตรใน Spectre และต้องเขียนอัลกอริทึมมากกว่า 25 เท่า แต่ก็ถือว่าเป็นก้าวสำคัญสำหรับแบรนด์ ชุดฟังก์ชันแต่ละชุดจะมีการควบคุมเฉพาะจุดของตนเองซึ่งช่วยยกระดับของรายละเอียดและการปรับแต่งแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน ทำให้ผู้เชี่ยวชาญด้านแชสซีของโรลส์-รอยซ์เรียกชุดคอนโทรลนี้ว่า “Rolls-Royce in high definition”
ROLLS-ROYCE SPECTRE: สถาปัตยกรรม
ในการสร้างสรรค์ผลงานการออกแบบสำหรับ Spectre ได้มีการเลือกรูปแบบตัวถังที่มีขนาดกว้างขวางและสื่อถึงอารมณ์ความรู้สึกได้อย่างดีเยี่ยม ซึ่งงานออกแบบนี้สามารถทำได้เฉพาะกับสถาปัตยกรรมโครงสร้างอลูมิเนียมสเปซเฟรมของแบรนด์เท่านั้น แท้จริงแล้วขนาดของตัวถังนี้ใหญ่กว่ายานยนต์คูเป้ร่วมสมัยรุ่นอื่นจึงได้รับการขนานนามว่า Electric Super Coupé เป็นความเชื่อของแบรนด์ว่ามีเพียงยนตรกรรมร่วมสมัยอีกรุ่นที่ใช้ขนาดตัวถังเดียวกันนี้ได้ คือ Phantom Coupé ทีมนักออกแบบของแบรนด์ถือว่า Spectre จะเป็นผู้สืบทอดจิตวิญญาณของ Phantom Coupé
แท้จริงแล้ว เมื่อพูดถึงการออกแบบ Spectre ทีมนักออกแบบของแบรนด์ได้พิจารณาถึงมิติและอารมณ์ของ Phantom Coupé และแกรนด์คูเป้รุ่นอื่น ๆ ในอดีตของโรลส์-รอยซ์ พวกเขาไม่เพียงส่งผ่านอารมณ์ความรู้สึกนี้ด้วยแนวหลังคาลาดเอียงและขนาดของ Spectre แต่พวกเขายังได้นำเสนอคุณลักษณะการออกแบบที่สำคัญของ Phantom Coupé ด้วยไฟหน้าแบบแยกชิ้นที่เป็นเอกลักษณ์ซึ่งเป็นปรัชญาการออกแบบที่ Rolls-Royce เป็นเจ้าของมานานหลายทศวรรษ
ลักษณะการออกแบบที่ได้รับการคัดเลือกนี้มาจากการปรึกษาหารือกับลูกค้าของแบรนด์ ซึ่งพบว่าแนวคิดของ Electric Super Coupé ในขนาดเดียวกับ Phantom นั้นช่างน่าดึงดูดใจไม่น้อย อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจไล่ตามสุนทรียศาสตร์นี้ก็ถือเป็นกลยุทธ์เช่นกัน บรรดาทีมผู้บริหารของแบรนด์ต้องการให้โรลส์-รอยซ์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบรุ่นแรกมีอารมณ์ร่วม เป็นยนตรกรรมที่แสดงให้เห็นว่าเทคโนโลยีระบบส่งกำลังไฟฟ้าสามารถส่งมอบสไตล์ที่โอ่อ่า เย้ายวน และน่าดึงดูดใจได้ ในขณะที่ Spectre จะเป็นตัวแทนของช่วงเวลาแห่งประวัติศาสตร์สำหรับ Rolls-Royce และยังเป็นตัวแทนแห่งประวัติศาสตร์สำหรับยนตรกรรมพลังงานไฟฟ้าอีกด้วย ซึ่งปัจจุบันเทคโนโลยีนี้สามารถส่งมอบประสบการณ์ในแบบฉบับของ Rolls-Royce
ความยืดหยุ่นของสถาปัตยกรรมอันเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของโรลส์-รอยซ์ ซึ่งสงวนไว้สำหรับการใช้งานเฉพาะของแบรนด์และไม่ได้รองรับการผลิตรถยนต์จำนวนมากทำให้การออกแบบภายนอกสามารถมีขนาดที่ต้องการในการรังสรค์ยนตรกรรมโรลส์-รอยซ์ที่แท้จริง จึงไม่น่าแปลกใจที่จะได้เห็นขนาดล้อของ Spectre ในฐานะรถคูเป้คันแรกมาในขนาด 23 นิ้วนับตั้งแต่ปีพ. ศ. 2469
ความยืดหยุ่นของสถาปัตยกรรมของแบรนด์ยังช่วยให้ทีมนักออกแบบสามารถส่งมอบสุดยอดประสบการณ์การขับขี่ของรถคูเป้ได้อีกด้วย ระดับของพื้นรถมีความสูงที่กึ่งกลางของชายบันไดข้างแทนที่จะอยู่ด้านบนหรือด้านล่างของระดับชายบันไดทำให้มีช่องสำหรับวางแบตเตอรี่ที่เป็นไปตามหลักอากาศพลศาสตร์ ส่งผลให้บริเวณใต้ท้องรถเรียบจึงทำให้ตำแหน่งเบาะที่นั่งต่ำและสามารถมอบประสบการณ์ห้องโดยสารที่โอบอุ้มผู้โดยสารได้
การย้ายตำแหน่งผนังกั้นระหว่างห้องเครื่องยนต์กับห้องโดยสาร ทีมนักออกแบบและวิศวกรสามารถขยายตำแหน่งแดชบอร์ดให้ลึกขึ้นเพื่อให้ผู้โดยสารรู้สึกถึงการถูกโอบอุ้มอย่างแท้จริง บริเวณนี้ได้รับการขยายด้วยตำแหน่งกระจกหน้ารถที่ต่ำลงค่อนข้างมากพร้อมกับสมรรถนะในการลู่ลมได้อย่างดีเยี่ยม สิ่งเหล่านี้ผนวกกับโซลูชันการออกแบบที่ชาญฉลาดอื่น ๆ เช่น สัญลักษณ์ Spirit of Ecstasy ที่ปรับตามหลักอากาศพลศาสตร์ ทำให้มีค่าแรงเสียดทานอากาศ (cd) เพียง 0.26 ในยนตรกรรมต้นแบบรุ่นแรกๆ
ตำแหน่งแบตเตอรี่จัดวางตามโครงสร้างทางสถาปัตยกรรมของแบรนด์ ปลดล็อกคุณประโยชน์อื่นที่สะท้อนถึงประสบการณ์การขับขี่ของโรลส์-รอยซ์ด้วยการเดินสายไฟและท่อระหว่างพื้นรถกับด้านบนของแบตเตอรี่ ทีมวิศวกรได้กำหนดอีกหนึ่งหน้าที่ของแบตเตอรี่ที่มีน้ำหนัก 700 กิโลกรัมคือการช่วยลดเสียงรบกวนภายนอกเข้ามายังภายในห้องโดยสาร
ROLLS-ROYCE SPECTRE: ภารกิจอันน่าทึ่งยังคงดำเนินต่อไป
เมื่อขั้นตอนการทดสอบในช่วงฤดูหนาวเสร็จสิ้น Spectre จะยังคงดำเนินการทดสอบทั่วโลกต่อไป ยนตรกรรม Electric Super Coupé นี้ยังคงต้องผ่านการทดสอบระยะทางอีกเกือบสองล้านกิโลเมตรก่อนที่ทีมวิศวกรของแบรนด์จะพิจารณาว่าการทดสอบได้เสร็จสิ้นสมบูรณ์ก่อนส่งมอบรถยนต์ให้กับลูกค้ารายแรกในไตรมาสที่สี่ของปีพ.ศ. 2566