ซูซูกิ ยกระดับงานบริการลูกค้าเปิดแคมเปญ Suzuki Worry Free ฟรี! ค่าแรงเช็กระยะนาน 3 ปี

ซูซูกิ ยกระดับงานบริการลูกค้าเปิดแคมเปญ Suzuki Worry Free ฟรี! ค่าแรงเช็กระยะนาน 3 ปี

ฟรี รถสำรองใช้ระหว่างซ่อม เป้าหมายมีอะไหล่รองรับรถยนต์ทุกรุ่นนาน 10 ปี ชูแอปพลิเคชัน HELLO SUZUKI ช่วยดูแลลูกค้า พร้อมลุยขยายศูนย์บริการครอบคลุมทั่วไทยเพิ่มเติมอีก 6 แห่ง

บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศแผนดำเนินธุรกิจในประเทศไทย มุ่งเสริมความแข็งแกร่งด้านงานบริการ เตรียมขยายการรับประกันฟรีค่าแรงเช็กระยะ สูงสุด 3 ปี หรือ 60,000 กิโลเมตร พร้อมเป้าหมายมีอะไหล่รองรับรถยนต์ทุกรุ่นนาน 10 ปี โดยนำแอปพลิเคชัน Hello Suzuki รองรับงานบริการที่รวดเร็วทันใจ เร่งเดินหน้าขยายศูนย์บริการให้ครอบคลุมทุกภูมิภาค และพัฒนายกระดับศูนย์ซ่อมตัวถังและสีตามมาตรฐานของซูซูกิเพื่อรองรับงานบริการอย่างทั่วถึงในอนาคต

นายทาดาโอะมิ ซูซูกิ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า สถานการณ์ตลาดรถยนต์ในประเทศ​ยังคงซบเซา ช่วงระยะเวลา 6 เดือนที่ผ่านมา (เดือนมกราคม-มิถุนายน) ตลาดรถยนต์รวมมียอดขายอยู่ที่ 307,995 คัน สำหรับซูซูกิ ยอดขายรวมทั้งสิ้น 3,791 คัน ลดลง 54 % จากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2023 ปัจจัยหลักที่ส่งผลให้ตลาดยังคงหดตัว คือ ปัญหาสภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซา ส่งผลให้ปัญหาหนี้ครัวเรือนและค่าครองชีพพุ่งสูงขึ้น กระทบต่อการปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงินอย่างชัดเจน

ทั้งนี้ แม้จะต้องเผชิญกับการแข่งขันในอุตสากรรรมยานยนต์ที่เข้มข้น สภาวะเศรษฐกิจที่ยังคงไม่ฟื้นตัว จนส่งผลกระทบต่อตลาดรถยนต์ในภาพรวม และก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสำคัญในช่วงที่ผ่านมา ซูซูกิยังมุ่งมั่นที่จะดำเนินธุรกิจในประเทศไทยต่อไปอย่างมั่นคง จึงเตรียมแผนการดำเนินธุรกิจให้พร้อมรองรับต่อการแข่งขันในอนาคต ซึ่งยังคงอยู่ภายใต้วิสัยทัศน์การดำเนินธุรกิจ “Enhancing the Ability to Compete in the Upcoming Automotive Market เพิ่มขีดความสามารถสู่การแข่งขันในอนาคต” ที่ได้ทำการประกาศแก่ผู้จำหน่ายรถยนต์ซูซูกิไปในช่วงต้นปีที่ผ่านมา

แผนการดำเนินธุรกิจรูปแบบใหม่จะเกิดขึ้นภายใต้แคมเปญ “SUZUKI WORRY FREE” ซึ่งจะเป็นการยกระดับงานบริการในทุกด้าน โดยเน้นย้ำถึงการดูแลลูกค้าด้วยความจริงใจ มอบคุณภาพของงานบริการที่ดีที่สุด ตอบแทนความไว้วางใจที่ลูกค้าชาวไทยมอบให้เสมอมา

นอกจากแผนการพัฒนางานบริการในด้านต่างๆ ซูซูกิยังเตรียมความพร้อมแข่งขันในตลาดรถยนต์ ด้วยแผนการแนะนำรถยนต์รุ่นใหม่ 4 รุ่น ตั้งแต่ปี 2568 เป็นต้นไป ซึ่งสอดคล้องกับทิศทางและนโยบายการรักษาความเป็นกลางทางคาร์บอน โดยประกอบไปด้วยรถประเภทไฮบริดและรถพลังงานไฟฟ้า 100% โดยมั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่าแต่ละรุ่นจะเป็นผลิตภัณฑ์ที่สอดคล้องต่อความต้องการของลูกค้าและสามารถแข่งขันได้ในอนาคตอย่างแน่นอน  

นายวัลลภ ตรีฤกษ์งาม รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ในฐานะที่เข้ามารับผิดชอบดูแลงานด้านการวางแผนบริหารงานฝ่ายบริการและอะไหล่ สิ่งที่ยึดมั่นคือการดำเนินงานภายใต้ปรัชญา “SUZUKI Cause We Care–เหนือกว่าความใส่ใจ คือความเข้าใจทุกความต้องการ” การพัฒนางานบริการในทุกด้านเพื่อยกระดับคุณภาพของผู้จำหน่ายรถยนต์ซูซูกิทั่วประเทศเป็นเป้าหมายสำคัญยิ่งของซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย)

โดยเพื่อให้ซูซูกิสามารถดำรงอยู่ได้อย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนในประเทศไทย การปรับปรุงแผนและพัฒนาการดำเนินงานเพื่อสร้างความมั่นใจให้ลูกค้าจึงเป็นสิ่งสำคัญ แคมเปญ “SUZUKI WORRY FREE” จึงเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่เราเชื่อมั่นว่าจะสามารถรองรับการดูแลลูกค้าด้วยคุณภาพและมาตรฐานของซูซูกิได้อย่างแท้จริง ซึ่งรายละเอียดจะประกอบไปด้วย 7 หัวข้อ ดังนี้

  1. ฟรี! ค่าแรงเช็กระยะ สูงสุด 3 ปี
  • สำหรับลูกค้าที่นำรถเข้าเช็กระยะต่อเนื่องตามกำหนดกับศูนย์บริการรถยนต์ซูซูกิทุกสาขา ฟรี! ค่าแรงเช็กระยะ สูงสุด 3 ปี หรือ 60,000 กิโลเมตร (โดยอย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)
  1. ขยายการรับประกันอะไหล่และงานบริการ
  • อุ่นใจไร้กังวล กับการขยายการรับประกันงานซ่อมและอะไหล่แท้ทุกชิ้น นานถึง 1 ปี หรือ 20,000 กิโลเมตร (โดยอย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน) จากเดิมที่รับประกันเพียง 3 เดือน หรือ 5,000 กิโลเมตร
  1. บริการพิเศษรถสำรองใช้ระหว่างซ่อม
  • รถยนต์ที่อยู่ในระยะรับประกัน 3 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร ไร้ความกังวลเรื่องไม่มีรถใช้งานระหว่างซ่อม ด้วยบริการพิเศษ ‘รถสำรองใช้ระหว่างซ่อม’ สำหรับรถยนต์ซูซูกิที่ต้องใช้เวลาตรวจเช็กมากกว่า 1 วัน (ไม่รวมระยะเวลาวิเคราะห์ปัญหา) และไม่รวมกรณีรถเกิดอุบัติเหตุ
  1. HELLO SUZUKI APPLICATION ยกระดับงานบริการแบบ S-Solution
  • HELLO SUZUKI คือ แอปพลิเคชัน ที่จะเชื่อมต่อข้อมูลการทำงานกับลูกค้า อำนวยความสะดวกสบายและความมั่นใจในงานบริการทุกขั้นตอน ทั้งการนัดหมายนำรถเข้ารับบริการ หรือติดต่อสอบถามข้อมูล รายงานการการตรวจสอบและดูแลรถในทุกขั้นตอน รวมถึงการมอบสิทธิพิเศษมากมาย ด้วยการสะสมคะแนนจากค่าใช้จ่ายในการเข้าซ่อมบำรุงตามระยะอย่างต่อเนื่อง หรือซ่อมแซมที่ศูนย์บริการของซูซูกิทั่วประเทศ
  1. ระบบการจัดการอะไหล่ มีเป้าหมายรองรับบริการได้ไม่น้อยกว่า 10 ปี
  • การจัดการเตรียมระบบจัดการอะไหล่รถยนต์ทุกรุ่นที่จำหน่ายภายในประเทศ ช่วยให้ลูกค้าคลายความกังวลเรื่องการขาดแคลนอะไหล่ในการบำรุงรักษารถ เพราะซูซูกิมีคลังอะไหล่ 2 แห่ง ทั้งที่คลังอ่อนนุช กรุงเทพมหานคร มีพื้นที่จัดเก็บขนาด 1,216 ตารางเมตร และคลังอะไหล่ จังหวัดระยอง มีพื้นที่จัดเก็บขนาด 4,076 ตารางเมตร รวมถึงคลังอะไหล่ของผู้จำหน่ายทั่วประเทศ มีอะไหล่จัดเก็บรวมมากถึง 741,000 ชิ้น โดยมีเป้าหมายรองรับความต้องการของลูกค้าได้ไม่น้อยกว่า 10 ปี นับจากวันที่สิ้นสุดการผลิต
  • บริการจัดส่งอะไหล่แบบเร่งด่วนภายใน 24 ชั่วโมง ในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล และพื้นที่อื่นๆ ภายใน 48 ชั่วโมง คุ้มค่าต่อการใช้งาน ด้วยอะไหล่ในราคาที่เข้าถึงง่าย
  1. ศูนย์บริการครอบคลุมทุกภูมิภาคทั่วประเทศ
  • ลูกค้ามั่นใจกับศูนย์บริการ 92 แห่ง ครอบคลุมทุกภูมิภาคทั่วประเทศ และเตรียมเสริมความแข็งแกร่งเพื่อรองรับแผนงานในอนาคต ด้วยการแต่งตั้งผู้จำหน่ายรายใหม่เพิ่มอีก 6 แห่ง ประกอบด้วย จังหวัดมหาสารคาม จังหวัดกาฬสินธุ์ จังหวัดหนองคาย จังหวัดบึงกาฬ และจังหวัดพัทลุง
  1. ศูนย์บริการซ่อมสีและตัวถังตามมาตรฐานของซูซูกิ
  • ปัจจุบันซูซูกิมีผู้จำหน่ายที่มีบริการศูนย์ซ่อมตัวถังและสีตามมาตรฐานของซูซูกิ ด้วยกันทั้งหมด 32 แห่ง ประกอบด้วย

ลำดับ

ชื่อบริษัทผู้จำหน่าย

ภาค

จังหวัด

1

บริษัท ซูซูกิ อินดี้ บางหว้า จำกัด

กรุงเทพและปริมณฑล

กรุงเทพมหานคร

2

บริษัท ดี โฟร์ คาร์ซิตี้ จำกัด

กรุงเทพและปริมณฑล

กรุงเทพมหานคร

3

บริษัท พีพี เมกะ ออโต้ จำกัด

กรุงเทพและปริมณฑล

กรุงเทพมหานคร

4

บริษัท มาพรพาณิชย์ จำกัด

กรุงเทพและปริมณฑล

กรุงเทพมหานคร

5

บริษัท ยูโรเปียน มอเตอร์คาร์ จำกัด (สำนักงานใหญ่)

กรุงเทพและปริมณฑล

กรุงเทพมหานคร

6

บริษัท ยูโรเปียน มอเตอร์คาร์ จำกัด (สาขาทองหล่อ)

กรุงเทพและปริมณฑล

กรุงเทพมหานคร

7

บริษัท บีบี ซูซูกิ ออโต้ จำกัด (สำนักงานใหญ่)

กรุงเทพและปริมณฑล

กรุงเทพมหานคร

8

บริษัท ซูซูกิ ตงเจริญออโต้เซลส์ จำกัด

กรุงเทพและปริมณฑล

ปทุมธานี

9

บริษัท ซูซูกิ นวนคร จำกัด

กรุงเทพและปริมณฑล

ปทุมธานี

10

บริษัท นวซูซูกิ ปทุมธานี จำกัด

กรุงเทพและปริมณฑล

ปทุมธานี

11

บริษัท นวออโตโมบิล บางใหญ่ จำกัด

กรุงเทพและปริมณฑล

นนทบุรี

12

บริษัท ยนต์ตระการ พรีเมียม คาร์ จำกัด

กรุงเทพและปริมณฑล

นนทบุรี

13

บริษัท สุพรรณยนตการ เทรดดิ้ง จำกัด

กรุงเทพและปริมณฑล

นนทบุรี

14

บริษัท บีบี ซูซูกิ ออโต้ จำกัด (สาขาบางบ่อ)

กรุงเทพและปริมณฑล

สมุทรปราการ

15

บริษัท ซูซูกิ ราชบุรี จำกัด (สำนักงานใหญ่)  

กลาง

ราชบุรี

16

บริษัท ซูซูกิ ราชบุรี จำกัด (สาขาบ้านโป่ง)  

กลาง

ราชบุรี

17

บริษัท ซูซูกิกาญจนบุรี จำกัด

กลาง

กาญจนบุรี

18

บริษัท พ.บรรจง ออโตซัพพลาย จำกัด

กลาง

ประจวบคีรีขันธ์

19

บริษัท ซูซูกิ หัวหิน (สิทธิภัณฑ์) จำกัด

กลาง

ประจวบคีรีขันธ์

20

บริษัท ซูซูกิเพชรบุรี (สิทธิภัณฑ์) จำกัด

กลาง

เพชรบุรี

21

บริษัท ซูซูกิ ฉะเชิงเทรา (2555) จำกัด  

ตะวันออก

ฉะเชิงเทรา

22

บริษัท ซูซูกิ ออโต้ เชียงใหม่ จำกัด

เหนือ

เชียงใหม่

23

บริษัท ซูซูกิ ออโต้ เชียงใหม่ จำกัด (สาขาดอนจั่น)

เหนือ

เชียงใหม่

24

บริษัท บี.เค. ออโต้ โมบิล จำกัด

เหนือ

ตาก

25

บริษัท คลัง ออโตโมบิลส์ จำกัด (สำนักงานใหญ่)

ตะวันออกเฉียงเหนือ

นครราชสีมา

26

บริษัท คลัง ออโตโมบิลส์ จำกัด (สาขาบายพาส)

ตะวันออกเฉียงเหนือ

นครราชสีมา

27

บริษัท คลัง ออโตโมบิลส์ จำกัด (สาขาปากช่อง)

ตะวันออกเฉียงเหนือ

นครราชสีมา

28

บริษัท ซูซูกิเจียงอุดร จำกัด

ตะวันออกเฉียงเหนือ

อุดรธานี

29

บริษัท สำราญยนตรการ ชัยภูมิ จำกัด

ตะวันออกเฉียงเหนือ

ชัยภูมิ

30

บริษัท ซูซูกิ อุบลราชธานี จำกัด (สำนักงานใหญ่)

ตะวันออกเฉียงเหนือ

อุบลราชธานี

31

บริษัท ซูซูกิ อุบลราชธานี จำกัด (สาขาเดชอุดม)

ตะวันออกเฉียงเหนือ

อุบลราชธานี

32

บริษัท เลิศวิจิตร ออโต้เซลส์ จำกัด

ตะวันออกเฉียงเหนือ

อำนาจเจริญ

โดยในอนาคต ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) ยังมีแผนงานที่จะขยายงานบริการศูนย์ซ่อมตัวถังและสีตามมาตรฐานของซูซูกิ เพิ่มอีกจำนวน  9 แห่ง ทั้งในจังหวัดนนทบุรี จังหวัดสิงห์บุรี จังหวัดสุโขทัย จังหวัดอยุธยา จังหวัดลพบุรี และจังหวัดขอนแก่น ภายในปี 2567

“เราพยายามพัฒนางานบริการหลังการขายให้ยกระดับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง การเพิ่มเข้ามาของบริการ HELLO SUZUKI คือ ปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้เราพัฒนา ระบบจัดการฐานข้อมูลลูกค้า (Dealer Management System หรือ DMS) ให้สามารถใช้งานได้อย่างเต็มรูปแบบ ทั้งนี้ เพื่อทราบถึงข้อมูลการเข้ารับบริการของลูกค้าได้แบบ Real Time ซึ่งช่วยประเมินความต้องการของลูกค้า ไปจนถึงเรื่องของค่าใช้จ่ายในการเข้ารับบริการได้อย่างแม่นยำ ทั้งยังร่วมมือกับผู้จำหน่ายทุกราย มุ่งเน้นการอบรมพนักงานในเชิงปฏิบัติอย่างมืออาชีพให้มีใจรักในการบริการลูกค้าเป็นอย่างดีอีกด้วย” นายวัลลภ กล่าว

ทั้งนี้ แม้ซูซูกิจะต้องเผชิญการแข่งขันในตลาดที่ค่อนข้างรุนแรง รวมถึงสภาวะการหดตัวลงของตลาดและความเข้มงวดของสถาบันการเงินต่างๆ แต่ในช่วงที่ผ่านมาเรายังคงรักษาระดับยอดขายรถยนต์ไว้ได้อย่างน่าพอใจ ซึ่งนอกจากต้องขอขอบคุณลูกค้าทุกท่านที่ไว้วางใจในผลิตภัณฑ์ของซูซูกิเป็นอย่างสูงแล้วนั้น ต้องขอขอบคุณผู้จำหน่ายของซูซูกิทุกรายที่ทำงานอย่างหนัก จึงขอให้ลูกค้าซูซูกิทุกท่านเชื่อมั่นได้ว่า  เราจะยังเดินหน้าพัฒนาคุณภาพในทุกด้านอย่างไม่หยุดยั้ง โดยยึดความสำคัญด้านการบริการทั้งก่อนและหลังการขายเป็นที่ตั้ง เพื่อตอบแทนความไว้วางใจที่ลูกค้ามอบให้ จนเราสามารถสร้างยอดขายสะสมนับตั้งแต่เข้ามาดำเนินธุรกิจในประเทศไทยได้ถึง 310,885 คัน

อย่างไรก็ตาม ปรัชญา “SUZUKI Cause We Care – เหนือกว่าความใส่ใจ คือความเข้าใจทุกความต้องการ” นอกจากเป็นแนวทางในการยึดมั่นให้เราพัฒนางานบริการและผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพเพื่อลูกค้าแล้ว ยังเป็นโครงการที่ต้องการสื่อสารไปยังลูกค้าและคนไทยทุกท่าน ว่าเราไม่ใช่แค่เพียงผู้ผลิตและจำหน่ายรถยนต์ แต่เราหวังเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือสังคม พร้อมกับการพัฒนาธุรกิจควบคู่ไปกับการอยู่คู่เคียงข้างชุมชนและสังคมไทยอย่างยั่งยืนอีกด้วย พร้อมทั้งตอกย้ำการมาของรถยนต์รุ่นใหม่ตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไป ที่จะสร้างการเติบโตของตลาดรถยนต์ภายในประเทศต่อไป

ช่องทางการติดต่อ

www.suzuki.co.th 

www.facebook.com/officialsuzukimotorthailand

SUZUKI Cause We Care: 1800-600-900        

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *