เสนอที่สุด พลังแห่งทางเลือกภายในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป 2021 นำโดยบีเอ็มดับเบิลยู 630i GT M Sport และอีกหลากหลายรุ่นใหม่ ไม่ว่าจะเป็น บีเอ็มดับเบิลยู X3 xDrive30e M Sport บีเอ็มดับเบิลยู X3 xDrive20d M Sport และรถยนต์พลังงานไฟฟ้าสปอร์ตอเนกประสงค์ บีเอ็มดับเบิลยู iX และ iX3
บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย ยังคงเดินหน้าสานต่อความมุ่งมั่นด้านอนาคตแห่งการขับเคลื่อนด้วยทัพรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูรุ่นใหม่ล่าสุดและข้อเสนอสุดพิเศษภายในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 38 ระหว่างวันที่ 1-12 ธันวาคม 2564 นี้ ณ อิมแพค ชาเลนเจอร์ เมืองทองธานี ด้วยความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าในการนำเสนอที่สุดของพลังแห่งทางเลือกให้กับลูกค้า พร้อมจัดแสดงรุ่นรถยนต์ในหลากหลายระบบขับเคลื่อนให้ผู้เข้าชมงานได้สัมผัสอย่างจุใจ นำทัพโดยบีเอ็มดับเบิลยู 630i GT M Sport ใหม่ ที่มาพร้อมสมรรถนะสปอร์ตทรงพลังตามแบบฉบับบีเอ็มดับเบิลยู ผสานความสะดวก สบายเหนือระดับสำหรับการขับขี่ทางไกล ในขณะที่รถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู X3 ใหม่ โดดเด่นด้วยความสปอร์ตและทันสมัย ผสมผสานความดิจิทัลยิ่งกว่ากับบีเอ็มดับเบิลยู X3 xDrive30e M Sport ใหม่ และบีเอ็มดับเบิลยู X3 xDrive20d M Sport ใหม่ ในขณะที่รถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู iX และ iX3 ที่มาพร้อมระบบขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าและดีไซน์การออกแบบล้ำสมัยมาอวดโฉมภายในงาน
มร. อเล็กซานเดอร์ บารากา ประธาน บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย กล่าวว่า “ท่ามกลางความท้าทายมากมายที่นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว บีเอ็มดับเบิลยูยังคงโอบรับแนวคิดและนวัตกรรมใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อสานต่อความก้าวหน้าด้านอนาคตแห่งการขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี ซึ่งผสมผสานศาสตร์แห่งศิลป์และสุนทรียะแห่งการขับขี่ในการส่งต่อให้กับลูกค้าได้อย่างยั่งยืน ความเป็นผู้นำของเราในตลาดรถยนต์พรีเมียมสะท้อนได้จากความยืดหยุ่นในการปรับเปลี่ยนวิวธีการทำงานท่ามกลางเหตุการณ์ที่พลิกผัน ในขณะที่ผู้จำหน่ายของเราก็ทำงานอย่างมุ่งมั่นเพื่อให้สามารถตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าและสถานการณ์ที่เปลี่ยนไปได้ในคราวเดียวกัน เรามุ่งมั่นที่จะมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้าตามพันธกิจของบริษัทในการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่ดีที่สุด การวัดผลของเราด้านดัชนีชี้วัดความพึงพอใจและความผูกพันของลูกค้าที่มีต่อองค์กร (NPS) ในส่วนการขายและบริการหลังการขาย เพิ่มขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปี 2564 ซึ่งนับเป็นสัญญาณบวกที่ดีจากลูกค้าของเรา โดยผ่านการโหวตอย่างเป็นเอกฉันท์ซึ่งแสดงระดับความพึงพอใจที่เพิ่มขึ้นทั้งด้านการขายและบริการหลังการขาย ในขณะเดียวกัน เรายังยกระดับโซลูชันด้านดิจิทัลเพื่อสนับสนุนเส้นทางของลูกค้าผ่านช่องทางการขายและบริการ เรามุ่งมั่นอย่างเต็มที่ในการประยุกต์ใช้นวัตกรรมและพัฒนาความเป็นดิจิทัลให้มากขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้มากที่สุด นอกจากนั้น เรายังนำเสนอเทคโนโลยีที่ดีที่สุดเพื่อความพึงพอใจในทุกเส้นทางของลูกค้าของเรา และเราจะไม่หยุดอยู่แค่นั้น เพราะเรามุ่งหมายที่จะทำให้เกินกว่าความคาดหวังของลูกค้าทั้งในวันนี้และพรุ่งนี้”
“บีเอ็มดับเบิลยู 630i GT M Sport ใหม่ มาพร้อมสมรรถนะสไตล์สปอร์ตทันสมัยควบคู่ ความสะดวกสบายสำหรับการเดินทางระยะไกล รูปลักษณ์ภูมิฐานหรูหราเหนือระดับและการใช้งานรอบด้าน ในขณะที่รถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู X3 ใหม่ มาให้เลือกในสองรุ่นย่อยคือ บีเอ็มดับเบิลยู BMW X3 xDrive30e M Sport และบีเอ็มดับเบิลยู X3 xDrive20d M Sport ด้วยรูปลักษณ์ล้ำสมัยขึ้น พร้อมสมรรถนะอันทรงพลังยิ่งขึ้น และดีไซน์ที่ปรับเปลี่ยนทั้งด้านหน้าและด้านหลัง เน้นองค์ประกอบของความเป็นตระกูล X อันคลาสสิค ที่สำคัญ บีเอ็มดับเบิลยูยังได้สร้าง การสร้างประวัติศาสตร์ใหม่สู่ยุคแห่งการขับเคลื่อนพลังงานไฟฟ้าในประเทศไทย ด้วยรถยนต์ SAV ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าอย่างบีเอ็มดับเบิลยู iX และ iX3 ใหม่นี้” มร. อเล็กซานเดอร์ บารากา กล่าว
ไฮไลท์รถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูภายในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 38
บีเอ็มดับเบิลยู 630i GT M Sport ใหม่
ราคาจำหน่าย: 4,099,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และโปรแกรมบำรุงรักษา BSI Standard คุ้มครองการบำรุงรักษาระยะเวลา 3 ปีหรือ 60,000 กม.)
บีเอ็มดับเบิลยู 630i GT M Sport ใหม่ โดดเด่นกว่ารถยนต์อื่น ๆ ในคลาสเดียวกัน ผสมผสานความสะดวก สบายสำหรับการขับขี่ทางไกลและสมรรถนะสไตล์สปอร์ตไว้อย่างลงตัว พร้อมการออกแบบภายในที่หรูหราและฟังก์ชันการใช้งานอัจฉริยะ คอนเซปต์และรายละเอียดการออกแบบตัวถังและภายในตัวรถอย่างพิถีพิถันส่งให้ตัวรถโดดเด่นยิ่งขึ้น ความเพลิดเพลินและประสิทธิภาพการขับขี่ถูกยกระดับขึ้นอีกขั้นด้วยนวัตกรรมระบบผู้ช่วยผู้ขับขี่ ระบบปฏิบัติการ และการเชื่อมต่อต่าง ๆ
การออกแบบภายนอกของบีเอ็มดับเบิลยู 630i GT M Sport ใหม่ มาพร้อมสัดส่วนปราดเปรียวที่เน้นย้ำถึงเอกลักษณ์หรูหราสไตล์สปอร์ตและการใช้งานที่หลากหลาย สะดุดตาด้วยกระจกรถไร้ขอบทั้งสี่ประตู เส้นสายหลังคาที่ทอดยาวจนถึงท้ายรถ ประตูท้ายขนาดใหญ่ และสปอยเลอร์หลังเพิ่มเสถียรภาพในการขับขี่ ดีไซน์ด้านหน้าและท้ายตัวรถแบบใหม่ส่งให้บีเอ็มดับเบิลยู 630i GT M Sport มีรูปลักษณ์สง่างามสปอร์ตเตะตายิ่งขึ้น กระจังหน้าและไฟหน้าทรงใหม่โดดเด่นกว่าเคย กระจังหน้าทรงไตคู่เหยียดออกด้านข้างและเข้าใกล้กันชนยิ่งขึ้น ส่วนกันชนท้ายดูกว้างและสะดุดตาเป็นพิเศษ ท่อไอเสียมาในทรงสี่เหลี่ยมคางหมู แพ็คเกจชุดแต่ง M Sport ออกแบบใหม่เช่นกัน มาพร้อมกันชนหน้าทรงลูกศรที่ชี้ไปทางถนนและชิ้นส่วนตะแกรง และดิฟฟิวเซอร์ขนาดใหญ่ท้ายรถ
ไฟหน้าใหม่ในระบบ LED มาพร้อมฟังก์ชันไฟหน้าปรับองศาการเข้าโค้งอัตโนมัติ ระบบ BMW Selective Beam ลดความพร่ามัว ระบบปรับการทำงานไฟสูงอัตโนมัติพร้อมเทคโนโลยี Matrix มาเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน การออกแบบไฟหน้าสะดุดตาด้วยไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันรูปตัว L สองตัวที่เรียงข้างกัน โดยไฟขับขี่ด้านนอกยังทำหน้าที่เป็นไฟเลี้ยวอีกด้วย ส่วนระบบปรับการทำงานไฟสูงอัตโนมัติช่วยปรับไฟส่องสว่างบนถนนได้ตามสถานการณ์การขับขี่
คอนเซปต์การออกแบบที่เด่นชัดของบีเอ็มดับเบิลยู 630i GT M Sport ใหม่ เสริมความโอ่อ่าและการใช้งานที่ทันสมัยภายในตัวรถ ความหรูหราเหนือระดับนี้มาพร้อมกับห้องโดยสารที่เอื้อต่อผู้ขับขี่ เบาะนั่งที่สูงขึ้น และการใช้งานที่หลากหลาย ช่องเก็บสัมภาระเพิ่มความจุจาก 600 ลิตรได้สูงสุด 1,800 ลิตร ระบบแสดงผล BMW Live Cockpit Professional ที่มาพร้อมหน้าปัดดิจิทัลและจอ Control Display ขนาด 12.3 นิ้ว มาเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ด้านระบบควบคุมที่อยู่บริเวณคอนโซลกลางดีไซน์ใหม่ตกแต่งด้วยอะลูมิเนียมลาย Rhombicle Smoke Grey และพวงมาลัยหนัง M Sport ที่จัดวางปุ่มควบคุมต่าง ๆ ใหม่ เป็นสองฟีเจอร์เด่นที่ส่งให้ภายในตัวรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู 630i GT M Sport ใหม่ มีความพรีเมียมยิ่งขึ้น อุปกรณ์มาตรฐานอื่น ๆ ยังรวมถึงเบาะนั่งปรับไฟฟ้าสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารตอนหน้าและเบาะหนัง Dakota บีเอ็มดับเบิลยู 630i GT M Sport ใหม่
ยังมาพร้อมกับเบาะนั่งตอนหน้าดีไซน์สปอร์ต แถบตกแต่งภายในใหม่ ชุดไฟสร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสารแบบใหม่ ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ 4 โซน หลังคากระจก Panorama และระบบเครื่องเสียงรอบทิศทาง Harman Kardon
บีเอ็มดับเบิลยู 630i GT M Sport ใหม่ ยกระดับความสะดวกสบายในการขับขี่ พร้อมห้องโดยสารที่โอ่อ่ากว้างขวางเพื่อความผ่อนคลายในการเดินทาง มาในเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ทำงานคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะแบบ Sport Steptronic ส่งพละกำลังสูงสุด 190 กิโลวัตต์ / 258 แรงม้า ที่ 5,000 – 6,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตรที่ 1,550 – 4,400 รอบต่อนาที จึงเร่งความเร็วจากหยุดนิ่งสู่ 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายใน 6.5 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
บีเอ็มดับเบิลยู BMW 630i GT M Sport ใหม่ มาพร้อมระบบควบคุมและแสดงผลชั้นเยี่ยม นำเสนอที่สุดแห่งความครบถ้วนในการควบคุมรถยนต์ การนำทาง รวมถึงฟังก์ชั่นการสื่อสารและระบบความบันเทิงที่ครบเครื่อง มอบความสะดวกสบายด้วย BMW ConnectedDrive กับระบบการสั่งงานด้วยเสียง กล้องแสดงภาพด้านหลัง และระบบการสั่งงานด้วยการเคลื่อนไหวของมือ เสริมความล้ำสมัยด้วยระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ ไม่ว่าจะเป็นระบบปกป้องคนเดินถนนเมื่อเกิดอุบัติเหตุ ระบบควบคุมความเร็วคงที่พร้อมฟังก์ชัน Stop&Go ระบบป้องกันการกระแทกจากด้านข้าง ระบบช่วยนำรถเข้าที่จอดอัตโนมัติ รวมถึงฟังก์ชันจอดรถยนต์ปราศจากผู้ขับขี่ควบคุมด้วยกุญแจ และระบบแสดงข้อมูลการขับขี่ BMW Head-Up Display
ระบบแสดงผล BMW Live Cockpit Professional ในบีเอ็มดับเบิลยู BMW 630i GT M Sport ใหม่ มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Operating System 7 ที่นอกจากจะช่วยให้การใช้งานสะดวกสบายและปรับแต่งหน้าจอแสดงผลได้ง่ายยิ่งขึ้น ยังช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถใช้บริการดิจิทัลเพิ่มเติมได้อีกด้วย อุปกรณ์มาตรฐานในบีเอ็มดับเบิลยู 630i GT M Sport ใหม่ ยังรวมถึงระบบผู้ช่วย BMW Intelligent Personal Assistant ที่ใช้งานได้หลากหลายกว่าเดิม
บีเอ็มดับเบิลยู BMW 630i GT M Sport ใหม่ มาใน 3 สีตัวถัง คือสีเทา Bernina Grey สีดำ Carbon Black และสีขาว Mineral White
บีเอ็มดับเบิลยู X3 xDrive30e M Sport ใหม่
ราคาจำหน่าย: 3,799,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และโปรแกรมบำรุงรักษา BSI Standard คุ้มครองการบำรุงรักษาระยะเวลา 3 ปีหรือ 60,000 กม.)
บีเอ็มดับเบิลยู X3 xDrive20d M Sport ใหม่
ราคาจำหน่าย: 3,699,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และโปรแกรมบำรุงรักษา BSI Standard คุ้มครองการบำรุงรักษาระยะเวลา 3 ปีหรือ 60,000 กม.)
บีเอ็มดับเบิลยู X3 ใหม่ ในรูปลักษณ์ทันสมัยสื่อถึงพละกำลังที่แข็งแกร่งยิ่งกว่า กับการออกแบบที่ปรับเปลี่ยนทั้งด้านหน้าและท้ายตัวรถ รวมไปถึงการเน้นย้ำองค์ประกอบคลาสสิคที่บ่งบอกความเป็นรถยนต์ตระกูล X กระจังหน้าทรงไตคู่และไฟหน้า กันชนหน้าและท้ายถูกออกแบบมาใหม่ ในขณะที่ไฟท้ายสะดุดตายิ่งขึ้น องค์ประกอบคุณภาพสูงอย่างแผ่นปิดใต้ห้องเครื่องยนต์และสเกิร์ตข้างตามสไตล์รถยนต์ตระกูล X มาเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ดีเอ็นเอความสปอร์ตแบบรถยนต์ Sports Activity Vehicle (SAV) ยังโดดเด่นยิ่งขึ้นด้วยแพ็คเกจชุดแต่ง M Sport
กระจังหน้าทรงไตคู่มาในดีไซน์ใหม่ มีรูปทรงสะดุดตาและขนาดใหญ่กว่าครั้งไหน ๆ ด้วยกรอบกระจังแบบชิ้นเดียว มิติของไฟหน้าที่ราบลงประมาณ 10 มิลลิเมตร และกันชนหน้าใหม่ ทำให้บีเอ็มดับเบิลยู X3 มีรูปลักษณ์ที่ต่างไปจากเดิม ไฟหน้า LED มาเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ส่วนท้ายโดดเด่นยิ่งขึ้นด้วยขอบสีดำล้อมรอบส่งให้ไฟท้าย LED สะดุดตา มาในทรงสามมิติที่บางขึ้น และไฟเลี้ยวแนวนอนในลายเส้นแบบ Filigree
บีเอ็มดับเบิลยู X3 ใหม่ รับเอาดีไซน์คอนโซลกลางมาจากบีเอ็มดับเบิลยูซีรีส์ 4 ในปัจจุบัน หน้าจอ Control Display แบบตั้งลอยพร้อมฟังก์ชันทัชสกรีน ในขนาด 12.3 นิ้วเป็นมาตรฐาน อุปกรณ์มาตรฐานต่าง ๆ ที่พัฒนาเพิ่มเติมยังรวมถึงเบาะนั่งตอนหน้าดีไซน์สปอร์ตและระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ 3 โซน และยังมีชุดไฟสร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสารที่ช่วยให้บรรยากาศในรถมีความหรูหราและผ่อนคลายยิ่งขึ้น
บีเอ็มดับเบิลยู X3 xDrive30e M Sport ใหม่ ผสมผสานระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ xDrive และระบบขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า eDrive ของบีเอ็มดับเบิลยูเข้ากันอย่างลงตัว เพื่อมอบความเพลิดเพลินในการขับขี่ควบคู่ความยั่งยืนอย่างสมบูรณ์ พร้อมระบบปลั๊กอินไฮบริดที่ประกอบด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 2 ลิตร มอบกำลังสูงสุดที่ 135 กิโลวัตต์ / 184 แรงม้า เทคโนโลยี BMW TwinPower Turbo และมอเตอร์ไฟฟ้าที่ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะแบบ Sport Steptronic พร้อม Gearshift Paddles มอบกำลังขับจากระบบไฟฟ้าสูงสุดที่ 80 กิโลวัตต์ / 109 แรงม้า โดยส่งพลังลงสู่ล้อทั้งสี่อย่างเต็มพิกัดเพื่อตอบทุกโจทย์การขับขี่อย่างแท้จริง รวมถึงการขับขี่ด้วยระบบไฟฟ้าเต็มรูปแบบ การประหยัดน้ำมัน และการลดมลภาวะ เมื่อนับรวมกันแล้ว เครื่องยนต์ขุมพลังเบนซิน 4 สูบ และมอเตอร์ไฟฟ้าของรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดรุ่นนี้สามารถส่งกำลังรวมสูงสุดได้ถึง 215 กิโลวัตต์ / 292 แรงม้า และยังช่วยลดอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงให้ลงมาที่ระดับ 35.7 กิโลเมตรต่อลิตร ขณะที่อัตราการปล่อย CO2 อยู่ที่ 64 กรัมต่อกิโลเมตร และหากนับรวมการใช้พลังงานทั้งสองรูปแบบแล้ว บีเอ็มดับเบิลยู X3 xDrive30e M Sport ใหม่ จะมีอัตราการใช้ไฟฟ้าอยู่ที่ประมาณ 17.92 กิโลวัตต์-ชั่วโมงต่อ 100 กิโลเมตร ส่วนแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนมาพร้อมกับเทคโนโลยีเซลล์แบตเตอรี่ใหม่ล่าสุด ส่งกำลังให้สามารถขับขี่ในโหมดไฟฟ้าล้วนได้ในระยะทางสูงสุดถึง 47 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC ประสิทธิภาพอันยอดเยี่ยมในด้านการใช้พลังงานนี้ ยังมาพร้อมสมรรถนะที่เป็นเลิศ ด้วยแรงบิดรวมสูงสุดที่ 420 นิวตันเมตร จึงเร่งความเร็วจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายในเวลาเพียง 6.1 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 210 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ด้านบีเอ็มดับเบิลยู X3 xDrive20d M Sport ใหม่ ขับเคลื่อนด้วยขุมพลัง BMW TwinPower Turboเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ มอบกำลังสูงสุดที่ 140 กิโลวัตต์ / 190 แรงม้า ที่ 4,000 รอบต่อนาที พร้อมแรงบิดสูงสุดกว่า 400 นิวตันเมตร ที่ 1,750 – 2,500 รอบต่อวินาที เร่งความเร็วจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายในเวลาเพียง 8 วินาที ทำความเร็วสูงสุดที่ 213 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และยังทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะแบบ Steptronic พร้อม Gearshift Paddles
ทั้งบีเอ็มดับเบิลยู X3 xDrive30e M Sport ใหม่ และบีเอ็มดับเบิลยู X3 xDrive20d M Sport ใหม่ Sport มาพร้อมกับล้ออัลลอย M น้ำหนักเบาขนาด 20 นิ้วในลาย Double-Spoke ระบบไฟหน้า LED ปรับตามทิศทางการหมุนของพวงมาลัย ระบบปรับการทำงานไฟสูงอัตโนมัติ ระบบช่วยการขับขี่ ระบบแสดงผล BMW Head-Up Display โดยบีเอ็มดับเบิลยู X3 xDrive30e M Sport ใหม่ โดดเด่นด้วยช่วงล่าง Adaptive ระบบช่วยนำรถเข้าที่จอดอัตโนมัติ รุ่น Plus คาลิเปอร์เบรก M Sport ระบบสร้างเสียงจำลองเตือนผู้ใช้ถนนรอบข้าง และกล้องแสดงภาพรอบทิศทาง ในขณะที่บีเอ็มดับเบิลยู X3 xDrive20d M Sport ใหม่ มาพร้อมกับช่วงล่าง M Sport ระบบช่วยนำรถเข้าที่จอดอัตโนมัติ และกล้องแสดงภาพด้านหลัง ผู้ขับขี่และผู้โดยสารยังเพลิดเพลินไปกับการเดินทางได้ด้วยระบบเครื่องเสียงรอบทิศทาง Harman Kardon ในรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู X3 xDrive30e M Sport และระบบเครื่องเสียง HiFi loudspeaker ในบีเอ็มดับเบิลยู X3 xDrive20d M Sport อีกด้วย ด้านปริมาตรการจุสัมภาระของบีเอ็มดับเบิลยู X3 xDrive30e M Sport ใหม่ และบีเอ็มดับเบิลยู X3 xDrive20d M Sport ใหม่ อยู่ที่ 450 – 1,500 ลิตร และ 550 – 1,600 ลิตร ตามลำดับ ในขณะที่ระบบ BMW Live Cockpit Professional ติดตั้งมาในรถยนต์ทั้งสองรุ่น มอบการเชื่อมต่อไร้สายกับสมาร์ทโฟนได้อย่างยอดเยี่ยมผ่านแอป Apple CarPlay
ทั้งบีเอ็มดับเบิลยู X3 xDrive30e M Sport ใหม่ และบีเอ็มดับเบิลยู X3 xDrive20d M Sport ใหม่ มีมาให้เลือกใน 5 สีตัวถัง ไม่ว่าจะเป็น สีดำ Black Sapphire metallic สีเทา Brooklyn Grey metallic สีขาว Mineral White metallic สีน้ำเงิน Phytonic Blue และสีเทา Sophisto Grey brilliant effect
บีเอ็มดับเบิลยู iX xDrive50 Sport ราคาจำหน่าย: 5,999,000 บาท
(รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม แพ็คเกจบำรุงรักษา BSI Standard นาน 4 ปี ไม่จำกัดระยะทาง)
บีเอ็มดับเบิลยู iX มาพร้อมเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าใหม่ล่าสุด พร้อมความล้ำยุคด้านเทคโนโลยีขับขี่อัตโนมัติและการเชื่อมต่ออีกมากมาย เพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่ที่ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคยิ่งขึ้น มาพร้อมเทคโนโลยี BMW eDrive และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบไฟฟ้าซึ่งทำงานร่วมกันเพื่อสร้างสมรรถนะการขับขี่ในระยะยาวไกลยิ่งขึ้นและอัตราเร่งที่ทรงพลัง บีเอ็มดับเบิลยู iX xDrive50 Sport ส่งพละกำลังรวมสูงสุด 385 กิโลวัตต์/523 แรงม้า ระบบ BMW eDrive เจเนอเรชั่นที่ห้านี้ยังทำงานพร้อมเทคโนโลยีเซลล์แบตเตอรี่ล่าสุด มอบระยะทางขับเคลื่อนตามมาตรฐาน WLTP สูงสุดถึง 630 กิโลเมตร สร้างแรงบิดรวมได้สูงสุดถึง 765 นิวตันเมตร ระบบป้องกันการลื่นไถลของล้อ (Near-actuator wheel slip limitation) ได้รับการติดตั้งควบคู่กับระบบขับเคลื่อนสี่ล้อเป็นครั้งแรก ช่วยป้องกันการลื่นไถลของล้อและเพิ่มความเสถียรภาพในการควบคุมรถยิ่งขึ้นอีกระดับ จึงโลดแล่นด้วยความเร็วจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายใน 4.6 วินาที
แบตเตอรี่แรงดันสูงในบีเอ็มดับเบิลยู iX xDrive50 Sport มีความจุพลังงานสุทธิ 105.2 กิโลวัตต์ชั่วโมง และความจุพลังงานรวม 111.5 กิโลวัตต์ชั่วโมง หัวชาร์จแบบ Combined Charging Unit (CCU) ได้รับการออกแบบมาเพื่อมอบการชาร์จที่ยืดหยุ่น รองรับการชาร์จแบบ DC ได้สูงสุด 200 กิโลวัตต์ จึงสามารถชาร์จจาก 0% ถึง 80% ได้ในเวลาเพียง 39 นาที อีกทั้งยังเพิ่มระยะขับขี่ได้สูงสุดถึง 100 กิโลเมตร หลังชาร์จแบตเตอรี่ด้วยการชาร์จแบบ DC 50 กิโลวัตต์ เพียง 21 นาที
ระบบการนำพลังงานกลับมาใช้ใหม่แบบแปรผัน (Adaptive recuperation) ช่วยเสริมประสิทธิภาพและระยะการขับขี่ของบีเอ็มดับเบิลยู iX xDrive50 Sport ด้วยการดึงพลังงานจากระบบเบรกกลับมาใช้ใหม่ให้เหมาะสมกับสภาวะการขับขี่ โดยใช้ข้อมูลจากระบบนำทางและเซนเซอร์จากระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ เช่น เมื่อรถเข้าใกล้ทางแยก ระดับการดึงพลังงานกลับมาใช้ใหม่จะเพิ่มสูงขึ้น เพื่อเติมพลังงานไฟฟ้ากลับเข้าสู่แบตเตอรี่แรงดันสูง ขณะเดียวกันก็จะทำให้ความเร็วในการขับขี่ลดลง และจะทำงานสลับกับฟังก์ชั่น Coasting ขณะขับขี่บนท้องถนน ซึ่งช่วยให้รถเคลื่อนที่ได้โดยไม่ต้องใช้พลังงานเมื่อผู้ขับขี่ยกเท้าออกจากแป้นคันเร่ง ผู้ขับขี่สามารถเลือกระดับการนำพลังงานกลับมาใช้ใหม่ได้ตามต้องการ ระหว่างระดับสูง ปานกลาง และต่ำ โดยเมื่อเลือกขับขี่ด้วยเกียร์ B ระบบ Recuperation จะทำงานที่ระดับสูงสุดโดยอัตโนมัติเพื่อสร้างประสบการณ์ในการขับขี่แบบ one-pedal feeling
โครงสร้างตัวถัง ปรัชญาการดีไซน์ และการออกแบบแชสซีของบีเอ็มดับเบิลยู iX ได้รับการพัฒนาเพื่อหลอมรวมความสะดวกสบายเหนือระดับในการขับขี่และการควบคุมที่โฉบเฉี่ยวสไตล์สปอร์ต โครงสร้างของบีเอ็มดับเบิลยู iX มาในวัสดุอลูมิเนียมแบบ spaceframe ส่วนหลังคามาในโครงสร้าง Carbon Cage ซึ่งประกอบ ด้วยวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์บริเวณด้านข้างและด้านหลัง ผสานการใช้วัสดุสองประเภทเข้าไว้ด้วยกันเพื่อเสริมทั้งความแข็งแกร่งและลดน้ำหนักให้เบาลงได้อย่างชาญฉลาด ส่วนค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ (Drag Coefficient) ที่ต่ำเพียง 0.25 จากองค์ประกอบด้านอากาศพลศาสตร์ต่าง ๆ ยังช่วยเสริมประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องยนต์และระยะการขับขี่ด้วยเช่นกัน แบตเตอรี่แรงดันสูงในบีเอ็มดับเบิลยู iX ที่ติดตั้งอยู่ใต้ท้องรถ ช่วยลดจุดศูนย์ถ่วงให้ต่ำลง เมื่อประสานเข้ากับการกระจายน้ำหนักอย่างสมดุลจึงทำให้ตอบสนอง
ต่อการควบคุมได้ฉับไวยิ่งขึ้น นอกจากนี้ รูปแบบการขับขี่ที่มีความสมดุลของบีเอ็มดับเบิลยู iX ยังช่วยเพิ่มความมั่นคงและความสบายขณะขับขี่ ขณะที่ยังคงความคล่องตัวไว้ได้อย่างดีเยี่ยม
เทคโนโลยีแชสซีที่ใช้ในการพัฒนาบีเอ็มดับเบิลยู iX ประกอบด้วย เพลาหน้าแบบปีกนกคู่ เพลาหลังแบบ five-link ช่วงล่างแบบปรับระดับได้ และระบบพวงมาลัยไฟฟ้าที่ปรับน้ำหนักตามความเร็วรถขณะขับขี่ (Servotronic) แปรผันตามการหมุนและความเร็ว มาพร้อมระบบช่วงล่างแบบถุงลมที่ควบคุมด้วยไฟฟ้า ระบบปรับองศาของล้อหลังเพื่อการเข้าโค้งหรือเลี้ยว (Integral Active Steering) และเบรกแบบสปอร์ต ล้อ aerodynamic ขนาด 22 นิ้ว แบบสลับสี ขัดเงาสามมิติ เสริมด้วยยางล้อลดเสียงรบกวนที่มีชั้นโฟมบริเวณพื้นผิวด้านในเพื่อลดการเกิดเสียงได้รับการติดตั้งมาเป็นมาตรฐาน
อีกหนึ่งเอกลักษณ์ใหม่ที่ไม่ซ้ำใครของบีเอ็มดับเบิลยู iX คือดีไซน์ภายนอกที่มีเส้นสายในการออกแบบชัดเจนทรงพลัง แต่ยังมีความเรียบง่าย และคงความบึกบึนสไตล์ SAV รายละเอียดขององค์ประกอบต่าง ๆ สื่อถึงความประณีตและความหรูหราล้ำยุค โดดเด่นสะดุดตาด้วยกระจังหน้าทรงไตคู่ที่เกือบปิดทึบ สะท้อนถึงนวัตกรรมการผลิตที่ล้ำสมัย ส่วนกล้องและเรดาร์เซนเซอร์ฝังอยู่ภายใต้พื้นผิวของกระจังหน้า โดดเด่นด้วยไฟหน้าและไฟท้ายที่เรียวยาวที่สุดของบีเอ็มดับเบิลยู มือจับประตูที่เปิดด้วยการกดปุ่ม หน้าต่างไร้ขอบ และประตูท้ายสอดประสานกลมกลืนเป็นหนึ่งเดียวตั้งแต่หน้ารถจรดท้ายรถโดยไม่มีช่องว่าง
การออกแบบภายในห้องโดยสารมุ่งนำเสนอแนวคิดของการใช้ชีวิตที่เปี่ยมด้วยคุณภาพ พื้นที่กว้างขวางและเบาะที่นั่งแบบใหม่พร้อมพนักพิงศีรษะเสริมความหรูหรายิ่งขึ้น พื้นที่วางขามากขึ้นเนื่องจากไม่ต้องมีท่อส่งน้ำมันกลางตัวรถ ช่วยเพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระ คอนโซลกลางมาในดีไซน์เฉียบ ปุ่มควบคุมระบบสัมผัสและระบบเปลี่ยนเกียร์แบบ rocker switch เติมเต็มความทันสมัยยิ่งขึ้นภายในห้องโดยสาร พร้อมเน้นย้ำถึงการออกแบบห้องโดยสารเพื่อผู้ขับขี่ด้วยจอ BMW Curved Display พวงมาลัยทรงหกเหลี่ยมและจอ Head-Up Display
ระบบปรับอากาศอัตโนมัติมาพร้อมฟิลเตอร์นาโนไฟเบอร์ที่สามารถกรองอากาศบริสุทธิ์ ควบคุมผ่านจอระบบสัมผัสแบบใหม่ ซึ่งใช้ควบคุมการหมุนเวียนของอากาศภายในห้องโดยสาร รวมถึงระบบทำความร้อนที่เบาะนั่งและพวงมาลัย มาพร้อมตัวเลือกอุปกรณ์เสริมคุณภาพเสียงทรงพลังยิ่งขึ้น อย่างระบบเสียงรอบทิศทางคุณภาพสูง Bowers & Wilkins Diamond Surround Sound System ที่ฝังอยู่ในพนักพิงศีรษะ และระบบเสียงแบบ 4D ที่มีฟังก์ชั่นสั่นตามเสียงเบสในเบาะหน้า
บีเอ็มดับเบิลยู iX ยังมาพร้อมเสียงประกอบการขับขี่ที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ เติมเต็มความเร้าใจในการขับขี่ทุกครั้งที่เร่งความเร็ว นอกจากนี้ ฟังก์ชั่น BMW IconicSounds Electric ซึ่งสามารถซื้อได้ผ่าน BMW Shop ยังมาพร้อมตัวเลือกเสียงใหม่ล่าสุดจากนักแต่งเพลงประกอบภาพยนตร์ชื่อดังระดับโลกอย่าง Hans Zimmer
บีเอ็มดับเบิลยู iX xDrive50 Sport ยังมาพร้อมหน้าจอแสดงผลและระบบทำงาน iDrive เจเนอเรชั่นใหม่ ซึ่งเปิดตัวเป็นครั้งแรกในบีเอ็มดับเบิลยู iX ต่อยอดการสื่อสารระหว่างผู้ขับขี่และรถยนต์ให้เป็นธรรมชาติมากขึ้น ทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ BMW Operating System 8 ที่ออกแบบสำหรับทำงานร่วมกับจอระบบสัมผัสแบบโค้ง BMW Curved Display รองรับการโต้ตอบด้วยเสียงกับ BMW Intelligent Personal Assistant ซึ่งได้รับการอัปเกรดจากรุ่นก่อนหน้า โดยจอ BMW Curved Display เป็นกลุ่มจอแสดงผลดิจิทัลประกอบด้วย จอ Information Display ขนาด 12.3 นิ้วและจอ Control Display ขนาด 14.9 นิ้ว รวมเข้าด้วยกันภายใต้แผงกระจกชิ้นเดียวที่หันหน้าเข้าหาผู้ขับขี่ ส่วนระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ดิจิทัลมาพร้อมฟีเจอร์ใหม่และแสดงกราฟฟิกดีไซน์ใหม่ขณะสื่อสารกับผู้ใช้งาน ระบบ My Modes ใหม่ ขยายการตั้งค่าต่าง ๆ ของรถยนต์ให้ครอบคลุมประสบการณ์ขับขี่ทุกรูปแบบ
บีเอ็มดับเบิลยู iX ยังมาพร้อมระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่และนวัตกรรมหลากหลายที่สุด เหนือกว่ารถยนต์ทุกรุ่นจากบีเอ็มดับเบิลยู พร้อมเซนเซอร์เจเนอเรชั่นใหม่ ซอฟต์แวร์ใหม่ และแพลตฟอร์มในการประมวลผลที่ทรงพลัง ใช้กล้อง 5 ตัว เรดาร์เซนเซอร์อีก 5 ตัว และอัลตร้าโซนิกเซนเซอร์ 12 ตัวในการตรวจจับสภาพแวดล้อมรอบคัน ระบบเตือนขณะเปลี่ยนเลน ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติพร้อมฟังก์ชั่น Stop & Go รวมถึงสองระบบใหม่ล่าสุด – ระบบเตือนขณะเปิดประตูรถ ในกรณีที่มีจักรยานหรือคนเดินเท้าอยู่ใกล้ประตูรถ (Exit warning function) และระบบ Remote Theft Recorder เสริมการทำงานของระบบที่ติดตั้งมาเป็นมาตรฐานอย่างระบบช่วยนำรถเข้าที่จอดอัตโนมัติ รุ่น Plus ประกอบด้วยกล้องแสดงภาพรอบทิศทาง แสดงภาพพื้นที่โดยรอบของรถให้เห็นแบบสามมิติผ่านระบบ Remote 3D
กระบวนการผลิตบีเอ็มดับเบิลยู iX ยังครอบคลุมถึงการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ โดยใช้อลูมิเนียมที่ผ่านกระบวนการหล่อและนำกลับมาใช้ใหม่ รวมถึงการนำพลาสติกกลับมาใช้ใหม่ในปริมาณมาก ภายในห้องโดยสารประกอบด้วยวัสดุไม้ที่รับรองจาก FSC หนังฟอกด้วยสารสกัดจากใบมะกอก และยังมีส่วนประกอบจากธรรมชาติอื่น ๆ อีกมากมาย และยังใช้แหจับปลาที่ผ่านการรีไซเคิลเป็นหนึ่งในวัสดุสำหรับผลิตพรมปูพื้นรถอีกด้วย
ลูกค้าสามารถเลือกสีตัวถังได้ถึง 6 สไตล์ตามความต้องการ ได้แก่ สีแดง Aventurin Red, สีดำ Black Sapphire, สีขาว Mineral White, สีน้ำเงิน Phytonic Blue, สีเทา Sophisto Grey และสีเทา Storm Bay