หน้าฝนมั่นใจ ควิกเลนแนะวิธีเตรียมรถพร้อมเดินทางปลอดภัยไร้กังวล

เมื่อฤดูฝนมาถึง จึงถึงเวลาแล้วที่เจ้าของรถต้องใส่ใจรถเป็นพิเศษ ให้สามารถขับขี่ท่ามกลางสภาพอากาศที่มีฝนตกหลายพื้นที่อย่างปลอดภัย โดยจากสถิติของกรมควบคุมโรคในช่วงเดือนกันยายนที่ฝนตกหนักในปีที่ผ่านมา มีผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุบนท้องถนนมากถึง 8,138 ราย ควิกเลน ศูนย์บริการยางและรถยนต์ประเภทเร่งด่วนมาตรฐานระดับโลก จึงขอแนะนำ 5 วิธีเตรียมรถรับมือกับหน้าฝนแบบมั่นใจ หนักแค่ไหนก็เอาอยู่ พร้อมส่งโปรโมชันตลอดระยะเวลา 3 เดือนตั้งแต่กรกฏาคม จนถึงกันยายน เพื่อความอุ่นใจของลูกค้าทุกคน

1. ตรวจสอบการสึกหรอของดอกยาง และเปลี่ยนยาง

ดอกยาง หรือลายที่เราเห็นบนหน้ายาง มีหน้าที่ช่วยให้รถสามารถยึดเกาะถนน หลังจากใช้รถเป็นระยะเวลานาน ดอกยางจะค่อยๆ สึกหรอและตื้นขึ้น เป็นเหตุให้ยึดเกาะถนนได้น้อยลง หากต้องการขับรถได้อย่างปลอดภัยในสภาพถนนลื่น ดอกยางควรมีความลึก 2.5 มม. เป็นอย่างน้อยเพื่อให้ยางซึมซับน้ำบนหน้ายางได้ หากตื้นกว่ากำหนด แนะนำให้เปลี่ยนยาง

2. รับมือกับถนนลื่น ด้วยการเช็กเบรค

เจ้าของรถควรนำรถเข้าเช็กเบรคทุกๆ 6 เดือนหรือ 10,000 กม. การดูแลความพร้อมของเบรคจะมี 2 ส่วนด้วยกัน ส่วนแรกคือน้ำมันเบรค ตัวกลางสำคัญที่จะส่งกำลังระหว่างแป้นเบรค และลูกสูบ ให้หยุดรถได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยควรดูให้อยู่ในระดับที่พอเหมาะ และไม่ให้น้ำมันรั่ว ส่วนที่สองคือผ้าเบรค หากไม่ได้รับการดูแล เวลาเบรคอาจทำให้รถไถลไปข้างใดข้างหนึ่งทำให้เกิดอันตรายได้

3. ดูแลความพร้อมของที่ปัดน้ำฝน

ที่ปัดน้ำฝนเป็นชิ้นส่วนที่ควรเปลี่ยนอย่างน้อยปีละครั้ง เนื่องจากยางที่ปัดน้ำฝนจะแห้ง แข็ง และแตกตามกาลเวลา เมื่อใช้งานอาจทำให้กระจกรถมีรอยเปื้อน ซึ่งอาจจะบดบังทัศนวิสัยของผู้ขับขี่ได้ เมื่อซื้อที่ปัดน้ำฝนใหม่ ควรนำอันเก่าไปให้ที่ร้านดู หรือนำรถเข้ารับบริการที่ศูนย์ฯ โดยตรง เพื่อให้มั่นใจว่าที่ปัดน้ำฝนจะพอดีกับรถของตนเอง นอกจากนี้ต้องเติมน้ำยาล้างกระจกเพื่อให้ทำความสะอาดได้อย่างเต็มที่อีกด้วย

4. เช็กแบตเตอรี่ให้มีใช้ อุ่นใจตลอดทริป

ท่ามกลางสภาพอากาศแปรปรวนและฝนตกหนัก ผู้ขับขี่จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าอย่างการเปิดไฟหน้ารถ และบางครั้งต้องใช้ไฟสูง ขณะเดียวกันความชื้นและความเย็นก็มีส่วนทำให้แบตเตอรี่เสื่อมลงได้เร็วขึ้น เจ้าของรถจะทราบว่าควรเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้จากอาการสตาร์ทช้า หรือไฟหน้าที่อ่อนลง ควรเปลี่ยนแบตเตอรี่ทันทีเพื่อป้องกันเหตุการณ์รถดับกลางถนนที่ฝนตก

5. หมั่นเติมของเหลวให้พร้อมทุกการเดินทาง

น้ำมันเครื่องยนต์ ระดับน้ำในหม้อน้ำ น้ำมันเกียร์ ล้วนเป็นของเหลวที่ต้องเตรียมให้พร้อมเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุคับขันระหว่างขับรถในสภาพอากาศเปียกชื้น เครื่องยนต์จะต้องทำงานอย่างราบรื่นตลอดการเดินทาง ไม่เกิดความร้อน และเกียร์จะต้องทำงานเต็มประสิทธิภาพ เพื่อความปลอดภัยสูงสุดของผู้ขับขี่และผู้โดยสาร