เกรท วอลล์ มอเตอร์ ก้าวสู่ยานยนต์แห่งอนาคต เดินหน้าสร้างโลกแห่งพลังงานสะอาด

เกรท วอลล์ มอเตอร์ ก้าวสู่ยานยนต์แห่งอนาคต เดินหน้าสร้างโลกแห่งพลังงานสะอาด

เกรท วอลล์ มอเตอร์ ในฐานะ “บริษัทที่ให้บริการการขับเคลื่อน ด้วยเทคโนโลยีระดับโลก” (Global Mobility Technology Company) จัดประชุมระดับโลก GWM Hydrogen Energy Strategy Global Launch กำหนดยุทธศาสตร์ด้านพลังงานไฮโดรเจนแห่งอนาคต พร้อมขับเคลื่อนโลกเข้าสู่ยุคพลังงานสะอาด โดยมีผู้เชี่ยวชาญ พันธมิตร รวมถึงสื่อมวลชนมากมายร่วมรับฟัง พร้อมลงนามข้อตกลงการเป็นพันธมิตรด้านอุตสาหกรรมกับทั้งศูนย์รับรองคุณภาพแห่งประเทศจีนและมหาวิทยาลัย Tong Ji

อุตสาหกรรมยานยนต์ทั่วโลกเกิดการเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างมากจากความก้าวหน้าของเทคโนโลยี และความผันผวนของราคาน้ำมันดิบ ตลอดจนภาวะโลกร้อนที่เกิดจากปัญหาก๊าซเรือนกระจก ส่งผลให้จีนซึ่งเป็นตลาดยานยนต์ที่ใหญ่ที่สุดของโลก ได้ออกนโยบายสนับสนุนรถยนต์พลังงานเซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจน โดยกำหนดให้รัฐบาลท้องถิ่นและบริษัทต่างๆ สร้างห่วงโซ่อุปทานและรูปแบบธุรกิจที่สนับสนุนการเติบโตสำหรับพลังงานไฮโดรเจน ในเอกสารของ China Hydrogen Alliance ที่เผยแพร่ในปี 2562 ได้คาดการณ์ว่า พลังงานไฮโดรเจนจะคิดเป็นประมาณ10% ของปริมาณพลังงานทั้งหมดของจีนภายในปี 2593[1]

ก้าวสู่การเป็นผู้นำพลังงานสะอาดเพื่อโลกแห่งอนาคต

เส้นทางการเป็นผู้นำยานยนต์พลังงานไฟฟ้า xEV ระดับโลกของเกรท วอลล์ มอเตอร์ได้เริ่มขึ้นเมื่อ 5 ปีที่แล้ว จากการตั้งทีมโปรเจค xEV ขึ้นอย่างเป็นทางการ เพื่อเริ่มการพัฒนาเทคโนโลยีหลักของ Great Wall FCEV ตั้งแต่ปี 2559 และเติบโตอย่างรวดเร็วจนกลายเป็นบริษัทรถยนต์ในประเทศจีนแห่งแรกที่เข้าร่วมสภาพลังงานไฮโดรเจนระหว่างประเทศ (Hydrogen Council) ในปี 2560 และเดือนมิถุนายนปีถัดมา ศูนย์เทคโนโลยีพลังงานไฮโดรเจนแห่งแรกในประเทศ ได้สร้างเสร็จและเปิดดำเนินการ โดยในเดือนกรกฎาคมปีเดียวกัน เกรท วอลล์ มอเตอร์ เข้าครอบครองหุ้นทั้งหมดของ Shanghai Fuel Cell Vehicle Powertrain Co. , Ltd ก่อนก่อตั้งบริษัท FTXT Energy Technology Co., Ltd. ขึ้น ในปี 2562 เพื่อดำเนินการด้านพลังงานเซลส์เชื้อเพลิง และได้จัดแสดงระบบเซลล์เชื้อเพลิง 85kW แท็งค์เก็บไฮโดรเจนชนิด IV และผลิตภัณฑ์อื่นๆ ในงาน Shanghai Auto Show ปีที่ผ่านมา ซึ่งการพัฒนานับได้ว่าประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็วจนสามารถจัดแสดงรถยนต์ต้นแบบเซลล์เชื้อเพลิงคันแรกได้ในปี 2563

กลยุทธ์การพัฒนาระบบนิเวศ (ECO System) อย่างครอบคลุมเพื่อก้าวไปสู่ความยั่งยืนทางพลังงาน

เกรท วอลล์ มอเตอร์ สร้างโซลูชั่นสำหรับการใช้พลังงานไฮโดรเจนในระดับมาตรฐานยานยนต์ที่จะเกิดความคุ้มค่าสูงสุด โดยนำเทคโนโลยีแบตเตอรี่เชื้อเพลิงไฮโดรเจน เทคโนโลยีการจัดเก็บไฮโดรเจนในรถยนต์และเทคโนโลยีความปลอดภัยของพลังงานไฮโดรเจน มารวมเข้าไว้ด้วยกันทุกกระบวนการตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ทั้งการวิจัย-การผลิต-การจัดเก็บ-การขนส่ง–การติดตั้ง-การใช้งาน เพื่อสร้างระบบนิเวศครบวงจร ในขณะที่บริษัท UTMOLIGHT ในเครือของเกรท วอลล์ มอเตอร์ ได้ทำลายสถิติโลก ด้วยการพัฒนาเทคโนโลยีกักเก็บพลังงานแสงอาทิตย์ด้วย Perovskite รุ่นใหม่ ที่มีประสิทธิภาพการแปลงพลังงานแสงเป็นพลังงานไฟฟ้าถึง 20.01% จึงนับเป็นผู้นำด้านการแปลงพลังงานแสงอาทิตย์ที่ตอบโจทย์ทุกๆ ความต้องการใช้งาน โดยเฉพาะอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า ซึ่ง เกรท วอลล์ มอเตอร์ ได้วางแนวทางปฏิบัติด้านการจัดเก็บพลังงานหมุนเวียนขนาดใหญ่ รวมไปถึงการออกแบบระบบการจ่ายพลังงานผ่านระบบจัดเก็บพลังงานไฮโดรเจนร่วมกับพลังงานไฟฟ้าและแบตเตอรี่เซลล์เชื้อเพลิง นับเป็นการวางรากฐานอันมั่นคงสำหรับการบริหารจัดการพลังงานทั้งแบบคงที่และแบบเคลื่อนที่

ความมุ่งมั่นของ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ในการวิจัยและพัฒนา ทำให้เกิดศูนย์เทคโนโลยีพลังงานไฮโดรเจนระดับโลกที่มีห้องปฏิบัติการเกือบ 10,000 ตารางเมตร พร้อมอุปกรณ์ที่มีคุณภาพสูงมากกว่า 240 ชุด ให้บริการการวิเคราะห์และทดสอบกว่า 181 รายการ ตั้งแต่ปี 2561 นับเป็นศูนย์วิจัยและพัฒนาแห่งแรกในประเทศที่มีระบบวงจรไฮโดรเจน 70MPa ระบบทดสอบความปลอดภัย สายทดลองการผลิตแท็งค์ไฮโดรเจนชนิด IV สายการผลิตชุดเซลล์เชื้อเพลิง (Fuel Cell Stack) และขั้วไฟฟ้า (Membrane Electrode) อัตโนมัติ รวมไปถึงระบบพลวัตพลังงานสูงและการทดสอบยานพาหนะ

จนถึงปัจจุบัน เกรท วอลล์ มอเตอร์ ได้ลงทุนไปแล้วกว่า 2 พันล้านหยวนในการวิจัยและพัฒนา และในอีก 3 ปีข้างหน้าจะยังคงลงทุนมากกว่า 3 พันล้านหยวนเพื่อพัฒนากำลังการผลิต 10,000 ชุดและกลายเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมพลังงานไฮโดรเจนในประเทศ ด้วยแนวคิด “Talents are the foundation of innovation” เกรท วอลล์ มอเตอร์ ยังได้รวบรวมทีมงานวิจัยและพัฒนาระดับนานาชาติจากยุโรป สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ อินเดีย แคนาดาและประเทศอื่นๆ กว่า 430 คน ที่เปี่ยมไปด้วยประสบการณ์ด้านเทคนิคมากกว่าสิบปีในสาขาพลังงาน ซึ่งกว่า 50% จบปริญญาโท-เอก โดยทีมนักวิจัยเหล่านี้จะหมุนเวียนทำงานในศูนย์วิจัยและพัฒนาทั้ง 5 แห่ง ใน 4 ประเทศ ได้แก่ เซี่ยงไฮ้ และเป่าติ้ง ในจีน และในประเทศ แคนาดา ญี่ปุ่น และเยอรมนี ซึ่งกำลังดำเนินการวิจัยและพัฒนาเกี่ยวกับพลังงานไฮโดรเจนและโซลูชั่นเทคโนโลยีเซลล์เชื้อเพลิงและทิศทางการพัฒนาพลังงานแห่งโลกอนาคต

ปัจจุบัน เกรท วอลล์ มอเตอร์ ประสบความสำเร็จในการเป็นเจ้าของสิทธิบัตรและทรัพย์สินทางปัญญาของ 6 เทคโนโลยีหลักและผลิตภัณฑ์อย่างเต็มตัว ประกอบไปด้วย 1) ชุดเซลส์เชื้อเพลิง (Fuel cell stack) และส่วนประกอบ 2) เทคโนโลยีการกำเนิดพลังงานไฟฟ้าของเซลล์เชื้อเพลิงและส่วนประกอบ (ตัวควบคุม ฯลฯ ) 3) แท็งค์บรรจุไฮโดรเจนชนิด IV 4) วาล์วกักเก็บไฮโดรเจนแรงดันสูง 5) เทคโนโลยีความปลอดภัยของการใช้ไฮโดรเจน และ 6) เทคโนโลยีไฮโดรเจนเหลว

ความสำเร็จที่ตอบรับยุทธศาตร์ชาติ สู่การต่อยอดนวัตกรรมเพื่อผู้บริโภค

เกรท วอลล์ มอเตอร์ มุ่งเน้นการส่งเสริมและการดำเนินงานสำหรับระบบขนส่ง 3 ประเภท ได้แก่ ระบบขนส่งสาธารณะ/รถประจำทาง รถบรรทุกขนาดใหญ่/รถขนส่งทางโลจิสติกส์ และรถยนต์นั่ง  โดยเข้าร่วมโครงการเมืองนำร่องสำคัญทั้ง 4 แห่งในประเทศจีน ได้แก่ เส้นทางพิเศษสำหรับรถบรรทุกขนาดใหญ่ทั้งเพื่อการขนส่งสินค้าทางการเกษตรในเขต Xinfadi ที่เมืองปักกิ่ง เส้นทางเพื่อการขนส่งกรวด หิน ดิน ทรายในเขต Xiong’an ใหม่ เมืองเหอเป่ย และเส้นทางการขนส่งโลจิสติกส์ที่เขต Binhai ใหม่ เมืองเทียนจิน เป็นต้น เพื่อสาธิตการใช้รถยนต์พลังงานเซลล์เชื้อเพลิง ในอุตสาหกรรมการขนส่ง โดย เกรท วอลล์ มอเตอร์ ได้สร้างระบบบริการที่ครอบคลุมตั้งแต่ การพัฒนาวัตถุดิบ การวิจัยและพัฒนา การผลิต การวิจัยเทคโนโลยีหลัก การทดสอบอุปกรณ์พลังงานไฮโดรเจน การทดสอบสภาพการใช้งานจริง โดยได้วางเป้าการพัฒนาอุตสาหกรรมรถยนต์เซลล์เชื้อเพลิงอย่างต่อเนื่องถึงปี 2568

เกรท วอลล์ มอเตอร์ ตั้งเป้าที่จะผลิตรถยนต์โดยสารเซลล์เชื้อเพลิงสูงสุดเป็นอันดับ 4 ของโลก และผลิตรถบรรทุกขนาดใหญ่น้ำหนัก 49 ตันที่จะใช้พลังงานไฮโดรเจน 100 คันแรกของโลกภายในปีนี้ และจะมีการเปิดตัวรถยนต์โดยสารระดับไฮเอนด์ที่ใช้พลังงานเซลส์เชื้อเพลิงครั้งแรกในช่วงโอลิมปิกฤดูหนาวปีหน้า รวมถึงเปิดตัวยานพาหนะเพื่อการพาณิชย์ เช่น รถบรรทุกพ่วงขนาดใหญ่ ยานพาหนะขนส่งและขยายการใช้งานเซลล์เชื้อเพลิงคาร์บอนต่ำไปยังการขนส่งทางเรือและทางรถไฟ เพื่อบรรลุเป้าหมายในการขึ้นเป็นเป็นบริษัท Top 3 ในตลาดพลังงานไฮโดรเจนของโลก ภายในปี 2568

ต่อยอด ตอบโจทย์ และเชื่อมโยงนวัตกรรมสู่ผู้บริโภคด้วย GWM LEMON

อีกหนึ่งความก้าวหน้าของเกรท วอลล์ มอเตอร์ คือ การนำเทคโนโลยีไฮโดรเจนผนึกกำลังกับเลมอนแพลตฟอร์ม (Lemon Platform) ในการสร้าง “ระบบพลังงานไฮโดรเจน” สำหรับการใช้งานของรถยนต์ที่คุ้มค่าที่สุด เป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมเพื่อการเดินทางที่เหมาะสมในทุกสภาพอากาศและทุกสภาพถนนอย่างไร้คาร์บอน และจะกลายเป็น Mega Trend สำคัญของโลก ที่จะทำให้บรรลุเป้าหมายการลดภาวะโลกร้อนได้อย่างมีนัยยะสำคัญ และจากงาน GWM Hydrogen Energy Strategy Global Launch เกรท วอลล์ มอเตอร์ ยังได้ลงนามพันธมิตรอุตสาหกรรมร่วมกับกับศูนย์รับรองคุณภาพแห่งประเทศจีนและคณะยานยนต์ มหาวิทยาลัย Tong Ji ประเทศจีน เพื่อต่อยอดการค้นคว้าวิจัยและพัฒนาพลังงานสะอาดสู่ขั้นสุด ซึ่งความสำเร็จในการพัฒนาเทคโนโลยีพลังงานไฮโดรเจนระดับโลกของ เกรท วอลล์ มอเตอร์ จะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในการร่วมสร้างโลกแห่งพลังงานสะอาดได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *