ในการแข่งขันรายการ Indianapolis 500 (Indy 500) ครั้งที่ 108
บริดจสโตนอเมริกา (บริดจสโตน) นำเสนอนวัตกรรมวัสดุและเทคโนโลยีเพื่อความยั่งยืนผ่านมอเตอร์สปอร์ตในการแข่งขันรายการ Indianapolis 500 (Indy 500) ครั้งที่ 108 ปี 2567
ไฟร์สโตนได้ฉลองครบรอบ 25 ปี ในฐานะผู้จัดหายางที่ใช้ในการแข่งขันรายการ NTT INDYCAR SERIES และรายการ Indy 500 โดยบริดจสโตนได้ผลิตยาง Firestone Firehawk สำหรับการแข่งขันรายการ Indy 500 ซึ่งใช้วัสดุโมโนเมอร์ 2 ชนิดที่สกัดจากกระบวนการผลิตน้ำมันปาล์ม ได้แก่ ไบโอ-สไตรีนและบูทาไดอีน โดยได้การรับรองจาก International Sustainability and Carbon Certification (ISCC) เป็นระบบรับรองคาร์บอนและความยั่งยืนระหว่างประเทศ ซึ่งช่วยให้สามารถตรวจสอบแหล่งที่มาของวัสดุเพื่อความยั่งยืนแบบย้อนกลับได้ตลอดห่วงโซ่อุปทาน 1
คุณ Cara Krstolic กรรรมการบริหารทีมวิศวกรรมและทีมการผลิตยางเพื่อการแข่งขันมอเตอร์สปอร์ต บริดจสโตนอเมริกา เผยว่า “ประวัติศาสตร์การแข่งขันมอเตอร์สปอร์ตด้วยยาง Firestone ย้อนกลับไปมากกว่า 100 ปี นับตั้งแต่การแข่งขันรายการ Indy 500 ครั้งแรกในปี พ.ศ. 2454 (ค.ศ. 1911) เรามีความตั้งใจที่จะรักษาเกมกีฬาที่เราชื่นชอบไว้ให้คนรุ่นต่อไปในอนาคต” “ความต้องการด้านการแข่งขันมอเตอร์สปอร์ตแสดงให้เห็นถึงความท้าทายที่เหนือชั้นผ่านการนำเสนอนวัตกรรมของเรา และเพื่อพิสูจน์ว่าสมรรถนะระดับพรีเมียมสามารถถ่ายทอดผ่านวัสดุและเทคโนโลยีเพื่อความยั่งยืน เราจึงได้ขยายความร่วมมือผ่านกีฬามอเตอร์สปอร์ตสู่การสร้างสรรค์โซลูชั่นสำหรับการเดินทางในอนาคต”
โดยรวมแล้วทีมวิศวกรรมและทีมการผลิตยางเพื่อการแข่งขันมอเตอร์สปอร์ตอีกเกือบ 60 คน ได้ผลิตยางที่ใช้ในการแข่งขันรายการ Indy 500 มากกว่า 5,000 เส้น เพื่อใช้ในรอบฝึกซ้อม คัดเลือก และแข่งขันจริงที่สนาม Indianapolis Motor Speedway (IMS) ในช่วงเดือนพฤษภาคม 2567 ที่ผ่านมา
การส่งเสริมความยั่งยืนผ่านมอเตอร์สปอร์ต
โดยยาง Firestone Firehawk Indy 500 ที่ใช้สำหรับการแข่งขันในปีนี้ผลิตจากวัสดุโมโนเมอร์เพื่อความยั่งยืน นับเป็นตัวอย่างล่าสุดที่ตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของบริดจสโตนในการใช้วัสดุและเทคโนโลยีเพื่อความยั่งยืนผ่านมอเตอร์สปอร์ตและการแข่งขันรายการ NTT INDYCAR SERIES
- ยาง Firestone Firehawk ที่ใช้ในการแข่งขันรายการ NTT INDYCAR SERIES ผลิตภายใต้การรับรองจาก International Sustainability and Carbon Certification (ISCC) ที่ศูนย์ Advanced Tire Production Center (ATPC) ของบริดจสโตน ที่เมืองแอครอน รัฐโอไฮโอ ประเทศสหรัฐอเมริกา และยังสามารถตรวจสอบแหล่งที่มาของวัสดุเพื่อความยั่งยืนแบบย้อนกลับได้ ได้แก่ วัสดุชีวภาพ การหมุนเวียนของวัสดุชีวภาพ และยางสังเคราะห์ที่มีส่วนประกอบจากแหล่งชีวภาพ 1
- บริดจสโตนได้ร่วมมือกับบริษัทโซลูชั่นการขนส่ง Penske Truck Leasing และการรับรองมาตรฐานระบบจัดการแบบบูรณาการ IMS เพื่อขนส่งยาง Firestone Firehawk Indy 500 ทั้งหมดไปยังสนามแข่งโดยใช้รถบรรทุกไฟฟ้า Freightliner eCascadia
- บริดจสโตนใช้ยางธรรมชาติที่ได้จากต้นวายูเล่ในกระบวนการผลิตแก้มยาง Firestone Firehawk สำหรับใช้แข่งขันในรายการ NTT INDYCAR SERIES ซึ่งต้นวายูเล่เป็นไม้พุ่มทะเลทรายปลูกในศูนย์วิจัยของบริดจสโตนในรัฐแอริโซนา ประเทศสหรัฐอเมริกา และกำลังได้รับการวิจัยในฐานะแหล่งทางเลือกที่มีศักยภาพสำหรับยางธรรมชาติ
บริดจสโตนยังคงใช้เวทีการแข่งขันมอเตอร์สปอร์ตระดับโลกเป็นทั้งแพลตฟอร์มการร่วมสร้างคุณค่าระดับโลกและเป็นเวทีพิสูจน์ในการส่งมอบคุณค่าของ Bridgestone E8 Commitment (พันธสัญญา E8 ของบริดจสโตน) ความมุ่งมั่นด้านการแข่งขันมอเตอร์สปอร์ตเชื่อมโยงกับการมีส่วนร่วมผ่านคุณค่าทั้ง 8 ด้านเพื่อโลกที่มีความยั่งยืนมากยิ่งขึ้น
กิจกรรมมอเตอร์สปอร์ตของบริดจสโตนและไฟร์สโตนสอดคล้องกับ Bridgestone E8 Commitment (พันธสัญญา E8 ของบริดจสโตน) ด้าน Emotion (ความรู้สึก), Energy (พลังงาน) และ Ecology (สิ่งแวดล้อม) ซึ่งการดำเนินงานด้านมอเตอร์สปอร์ตร่วมกับโครงการต่างๆ ของบริดจสโตนจะช่วยให้องค์กรบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนและเป้าหมายการผลิตยางที่ทำจากวัสดุหมุนเวียนและวัสดุรีไซเคิลได้ 100% ภายในปี พ.ศ. 2593 (ค.ศ. 2050)
1 วัสดุรีไซเคิลที่ได้รับการรับรองจาก International Sustainability and Carbon Certification (ISCC) ซึ่งเป็นระบบรับรองคาร์บอนและความยั่งยืนระหว่างประเทศ เพื่อความสมดุลระหว่างประสิทธิภาพที่เหนือชั้นและการคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สำหรับรายละเอียดการรับรองจาก ISCC และ ATPC ISCC PLUS อ่านเพิ่มเติมได้ที่ www.iscc-system.org.