Rolls-Royce ประสบความสำเร็จด้วยยอดขายประจำปีสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปีพ.ศ. 2565 โดยส่งมอบรถยนต์ทั้งหมด 6,021 คันให้แก่ลูกค้าในกว่า 50 ประเทศทั่วโลกสะท้อนการเติบโตถึง 8% จากในปีพ.ศ. 2564 นับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ 118 ปีของบริษัทที่มียอดจำหน่ายเกิน 6,000 คันในระยะเวลา 12 เดือน นอกจากนี้มูลค่ายอดการสั่งผลิตพิเศษบีสโป๊กยังเติบโตขึ้นเป็นประวัติการณ์ในขณะที่ความต้องการในยานยนต์ Rolls-Royce ทุกรุ่นยังคงมีอยู่สูงมากด้วยยอดสั่งจองล่วงหน้าจนถึงภายในปีพ.ศ. 2566
ในปี พ.ศ. 2565 Rolls-Royce มียอดขายเพิ่มขึ้นในเกือบทุกภูมิภาค โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเติบโตที่แข็งแกร่งแบบปีต่อปีในภูมิภาคตะวันออกกลาง เอเชีย-แปซิฟิก สหรัฐอเมริกาและยุโรป ที่มีนัยสำคัญกว่าจำนวนรถยนต์ที่ขายได้ก็คือมูลค่าของการสั่งผลิตพิเศษบีสโป๊กตามความต้องการของลูกค้านั้นสูงกว่าที่เคยมีมา ความเป็นไปได้ที่แทบไม่มีที่สิ้นสุดสำหรับการสั่งผลิตพิเศษตามความต้องการเฉพาะบุคคลส่งผลให้ลูกค้ายินดีจ่ายเงินโดยเฉลี่ยประมาณห้าแสนยูโรสำหรับยนตรกรรมโรลส์-รอยซ์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะของตน ต้องขอบคุณข้อเสนอพิเศษเฉพาะของบริการบีสโป๊กของ Rolls-Royce ที่ไม่มีใครเทียบได้ และการที่บริษัทมุ่งเน้นการสร้างผลกำไรอย่างต่อเนื่องทำให้แบรนด์สามารถมอบผลตอบแทนอย่างมีนัยสำคัญแก่ผู้ถือหุ้นรายใหญ่
ส่วนตะวันออกกลางเป็นภูมิภาคชั้นนำสำหรับการสั่งผลิตแบบบีสโป๊กของแบรนด์โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสั่งผลิตยานยนต์บีสโป๊กแบบคอลเล็กชั่นและแบบเฉพาะบุคคล ดังนั้นในปีพ.ศ. 2565 Rolls-Royce จึงได้เปิด Private Office แห่งแรกนอกกู้ดวูดในดูไบสำหรับลูกค้าผู้ได้รับการเชิญเท่านั้นเป็นการนำ Home of Rolls-Royce ให้เข้ามาใกล้ชิดกับลูกค้าของแบรนด์ในภูมิภาค โดยสำนักงานย่อยอีกหลายแห่งที่คล้ายคลึงกันนี้จะเปิดให้บริการทั่วโลกในอนาคตอันใกล้
ทวีปอเมริกาเติบโตอย่างอย่างมีนัยสำคัญในช่วงปีพ.ศ. 2565 และยังคงเป็นภูมิภาคเดียวที่ใหญ่ที่สุดของ Rolls-Royce โดยตลาดเกือบทั้งหมดมียอดขายสูงกว่าปีก่อนหน้า ประเทศจีนมีความสำคัญเชิงกลยุทธ์ที่สำคัญสำหรับโรลส์-รอยซ์ และเป็นภูมิภาคที่มียอดจำหน่ายสูงเป็นอันดับสองของแบรนด์ แม้ว่าจะมีอุปสรรคที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ยอดขายลดลงในระดับตัวเลขหลักเดียว (a single-digit) เมื่อเทียบกับสถิติในปีพ.ศ. 2564 อย่างไรก็ตามยอดขายที่เพิ่มขึ้นในตลาดอื่น ๆ ก็ช่วยผลักดันให้ยอดขายโดยรวมของภูมิภาคอยู่ในระดับที่น่าพอใจ
ถึงแม้จะมีความท้าทายทางภูมิรัฐศาสตร์ที่รุนแรงส่งผลกระทบต่อทวีปยุโรป แต่ภูมิภาคนี้เติบโตโดยรวมในปีพ.ศ. 2565 โดยมียอดขายสูงเป็นประวัติการณ์ในหลายตลาด รวมถึงสหราชอาณาจักรและเยอรมนี อีกทั้ง ภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกมียอดขายสูงกว่าที่เคยเป็นมา
ความสำเร็จที่ไม่เคยมีมาก่อนของ Rolls-Royce นี้เกิดขึ้นพร้อมกับการที่บริษัทฉลองครบรอบ 20 ปีของ Home of Rolls-Royce ที่กู้ดวูดในเดือนมกราคม 2566 การเปลี่ยนแปลงของบริษัทจากการนำเสนอยานยนต์เพียงรุ่นเดียวคือ Phantom และการรังสรรค์ยนตรกรรมเพียงหนึ่งคันต่อวันมาเป็นสถิติตัวเลขสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในวันนี้เป็นผลมาจากกลยุทธ์ระยะยาวบนพื้นฐานของการเติบโตอย่างยั่งยืน การบริหารจัดการและวางแผนอย่างรอบคอบ และความสำเร็จของการนำเสนอแบรนด์ในรูปแบบใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา Rolls-Royce ได้มุ่งมั่นในการปรับแต่งและปรับตัวให้แบรนด์และกลุ่มผลิตภัณฑ์ยานยนต์มีความสดใหม่เพื่อสะท้อนถึงความต้องการ รสนิยม และข้อมูลประชากรที่เปลี่ยนแปลงไปของลูกค้า ในขณะที่ยังคงไว้ซึ่งความพิเศษเฉพาะตัวและความเป็นของหายากที่มีมานับตั้งแต่แบรนด์เริ่มถือกำเนิด Rolls‑Royce เป็นทั้งแบรนด์ที่หรูหราอย่างแท้จริงและเป็นบริษัทที่เน้นนวัตกรรมและวิศวกรรมเป็นหลัก Rolls‑Royce จึงยังคงเป็นตัวแทนของงานหัตถศิลป์ เทคโนโลยี ความหรูหรา และความคิดสร้างสรรค์ในระดับขั้นสุดเฉกเช่นที่เคยเป็นเสมอมา