ตลาดรถยนต์เมษายนเปิดไตรมาสสองยังชะลอตัว ยอดขายรวม 59,530 คัน ลดลง 6.1%

ตลาดรถยนต์เมษายนเปิดไตรมาสสองยังชะลอตัว ยอดขายรวม 59,530 คัน ลดลง 6.1%

นายศุภกร รัตนวราหะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย รายงานสถิติการขายรถยนต์ประจำเดือนเมษายน 2566 ชะลอตัวด้วยยอดขาย 59,530 คัน ลดลง 6.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ตลาดรถยนต์นั่งมีปริมาณการขาย 20,203  คัน ลดลง 1.4% ในขณะที่รถยนต์เพื่อการพาณิชย์มีปริมาณการขาย 39,327 คัน ลดลง 8.4% และรถกระบะขนาด 1 ตัน ในเซกเมนท์นี้จำนวน 26,818  คัน ลดลงถึง 20.3% 

ประเด็นสำคัญ

ตลาดรถยนต์เดือนเมษายน 2566 ชะลอตัวทุกเซ็กเมนท์ด้วยยอดขาย 59,530 คัน ลดลง 6.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ในขณะที่รถยนต์นั่งชะลอตัวเล็กน้อยที่ 1.4% ด้วยยอดขาย 20,203 คัน ส่วนทางด้านรถเพื่อการพาณิชย์ชะลอตัวเช่นกันที่ 8.4% ด้วยยอดขาย 39,327 คัน ประเด็นหลักที่ทำให้ตลาดรถยนต์ในเดือนนี้ชะลอตัวอยู่ที่ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน ซึ่งลดลงถึง 20.3% ซึ่งเป็นผลมาจากการชะลอการตัดสินใจซื้อของภาคธุรกิจ และภาคประชาชนในช่วงก่อนการเลือกตั้ง ประกอบกับการเติบโตของเศรษฐกิจหลังฟื้นตัวจากสถานการณ์โควิด ที่มียอดสั่งซื้อรถยนต์ทุกประเภทเข้ามาเป็นจำนวนมากในช่วงที่ผ่านมา

ตลาดรถยนต์ในเดือนพฤษภาคม มีแนวโน้มชะลอตัวต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลมาจากความผันผวนทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในช่วงของการเลือกตั้ง ส่งผลกระทบโดยตรงต่อการชะลอการตัดสินใจซื้อ ซึ่งภาคประชาชน และภาคเอกชนต่างเฝ้ารอความชัดเจนในการดำเนินนโยบายทางเศรษฐกิจของรัฐบาลต่อไป

ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์ เดือนเมษายน 2566

ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย  59,530 คัน ลดลง 6.1 %                       

อันดับที่ 1 โตโยต้า      19,565  คัน    ลดลง   9.8 %            ส่วนแบ่งตลาด   32.9%

อันดับที่ 2 อีซูซุ          13,336  คัน     ลดลง   19.6 %           ส่วนแบ่งตลาด   22.4%

อันดับที่ 3 ฮอนด้า       6,409  คัน       เพิ่มขึ้น 25.5 %          ส่วนแบ่งตลาด   10.8%

ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 20,203 คัน ลดลง 1.4%                                 

อันดับที่ 1 โตโยต้า      7,284  คัน       เพิ่มขึ้น  5.5%           ส่วนแบ่งตลาด   36.1%

อันดับที่ 2 ฮอนด้า       3,783  คัน       ลดลง   4.7%            ส่วนแบ่งตลาด   18.7%

อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ      1,503   คัน      ลดลง   1.7 %            ส่วนแบ่งตลาด  7.4%

ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 39,327  คัน ลดลง 8.4%                                

อันดับที่ 1 อีซูซุ          13,336  คัน     ลดลง   19.6.%           ส่วนแบ่งตลาด 33.9%

อันดับที่ 2 โตโยต้า      12,281 คัน      ลดลง   16.9%            ส่วนแบ่งตลาด 31.2%

อันดับที่ 3 ฟอร์ด        2,869   คัน      เพิ่มขึ้น   13.4%           ส่วนแบ่งตลาด  7.3%

ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน  (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV*)

ปริมาณการขาย 26,818 คัน ลดลง 20.3%                               

อันดับที่ 1 อีซูซุ          11,880  คัน     ลดลง      23.1%        ส่วนแบ่งตลาด 44.3%

อันดับที่ 2 โตโยต้า      10,249 คัน     ลดลง      18.7%         ส่วนแบ่งตลาด 38.2%

อันดับที่ 3 ฟอร์ด         2,869 คัน      เพิ่มขึ้น     13.4%        ส่วนแบ่งตลาด  10.7%

*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน) 4,944 คัน

โตโยต้า 1,900 คัน – อีซูซุ 1,676 คัน – ฟอร์ด 837 คัน – มิตซูบิชิ 438 คัน – นิสสัน 93 คัน

ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 21,874 คัน ลดลง 24.8%                               

อันดับที่ 1 อีซูซุ          10,204 คัน     ลดลง   27.9%            ส่วนแบ่งตลาด 46.6%

อันดับที่ 2 โตโยต้า       8,349 คัน      ลดลง   19.8%            ส่วนแบ่งตลาด 38.2%

อันดับที่ 3 ฟอร์ด         2,032 คัน      ลดลง     8.1 %            ส่วนแบ่งตลาด  9.3%     

สถิติการจำหน่ายรถยนต์ เดือนมกราคม – เมษายน 2566

ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 276,603 คัน ลดลง 6.1%                             

อันดับที่ 1 โตโยต้า       94,686 คัน    ลดลง     4.2%           ส่วนแบ่งตลาด 34.2%

อันดับที่ 2 อีซูซุ            60,495 คัน    ลดลง     18.3%          ส่วนแบ่งตลาด 21.9%

อันดับที่ 3 ฮอนด้า        32,370 คัน    เพิ่มขึ้น     5.3%          ส่วนแบ่งตลาด 11.7%

ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย  97,769 คัน เพิ่มขึ้น 1.6%                               

อันดับที่ 1 โตโยต้า        35,364 คัน   เพิ่มขึ้น  29.8%         ส่วนแบ่งตลาด 36.2%

อันดับที่ 2 ฮอนด้า        21,569 คัน    ลดลง    9.6%           ส่วนแบ่งตลาด 22.1%

อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ         6,721 คัน    ลดลง     4.5%            ส่วนแบ่งตลาด  6.9%

ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 178,834  คัน ลดลง 9.9%                    

อันดับที่ 1 อีซูซุ           60,495 คัน    ลดลง    18.3%          ส่วนแบ่งตลาด 33.8%

อันดับที่ 2 โตโยต้า       59,322 คัน    ลดลง    17.1%          ส่วนแบ่งตลาด 33.2%

อันดับที่ 3 ฟอร์ด          13,909 คัน   เพิ่มขึ้น    40.8%         ส่วนแบ่งตลาด  7.8%

ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน  (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV*)

ปริมาณการขาย 128,290  คัน ลดลง 18.0%

อันดับที่ 1 อีซูซุ            55,402 คัน    ลดลง   19.2%            ส่วนแบ่งตลาด   43.2%

อันดับที่ 2 โตโยต้า       49,536 คัน    ลดลง   21.0%            ส่วนแบ่งตลาด   38.6%

อันดับที่ 3 ฟอร์ด          13,909 คัน   เพิ่มขึ้น  40.8%            ส่วนแบ่งตลาด   10.8%

*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน) 23,171 คัน

โตโยต้า 8,633 คัน – อีซูซุ 7,870 คัน – ฟอร์ด 4,399 คัน – มิตซูบิชิ 1,830 คัน – นิสสัน 439 คัน

ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย  105,119 คัน ลดลง 22.5%

อันดับที่ 1 อีซูซุ          47,532 คัน      ลดลง  23.8%             ส่วนแบ่งตลาด 45.2%

อันดับที่ 2 โตโยต้า      40,903 คัน      ลดลง  22.4%            ส่วนแบ่งตลาด 38.9%

อันดับที่ 3 ฟอร์ด        9,510 คัน     เพิ่มขึ้น  12.4%              ส่วนแบ่งตลาด  9.0%   

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *