มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ต้อนรับนายกเยือนศูนย์การผลิตฯ แหลมฉบัง

มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ต้อนรับนายกเยือนศูนย์การผลิตฯ แหลมฉบัง

รายงานผลความคืบหน้า โครงการ “Factory Sandbox” ตอกย้ำความร่วมมือรัฐ กระตุ้นอุตสาหกรรมยานยนต์ สร้างเสถียรภาพทางเศรษฐกิจไทย

พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายสุชาติ ชมกลิ่นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นายสุรชัย ชัยตระกูลทอง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงาน คุณสุทธิ สุโกศล ปลัดกระทรวงแรงงาน และคุณภัครธรณ์ เทียนไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี และคณะ เข้าตรวจเยี่ยมและรับฟังการรายงานผลความคืบหน้าโครงการ Factory Sandbox พร้อมเยี่ยมเดินชมกิจกรรมการฉีดวัคซีนกลุ่มพนักงาน ณ ศูนย์การผลิตรถยนต์มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย นิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี โดยมี มร. โมะริคาซุ ชกกิ ประธานคณะกรรมการบริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด พร้อมคณะผู้บริหารให้การต้อนรับ

โดยเมื่อวันที่ 1 กันยายน 2564 ที่ผ่านมา มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ได้ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลง (MOU) เข้าร่วมโครงการ Factory Sandbox บูรณาการความร่วมมือระหว่างกระทรวงแรงงานและโรงพยาบาลวิภาราม ณ ศูนย์การผลิตรถยนต์มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย นิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี ด้วยเล็งเห็นถึงความสำคัญของความปลอดภัยในชีวิตพนักงาน รวมถึงการมีส่วนร่วมกับภาครัฐในการลดทอนปัญหาจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาในประเทศ

มร. โมะริคาซุ ชกกิ ประธานคณะกรรมการบริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “เรารู้สึกขอบคุณและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ ท่าน พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา พร้อมคณะ ได้เข้ามาตรวจเยี่ยมและเป็นสักขีพยานในการฉีดวัคซีนให้แก่พนักงานของเราภายใต้โครงการ Factory Sandbox ซึ่งโครงการนี้ เป็นมาตรการของรัฐที่ช่วยยกระดับความปลอดภัยและลดโอกาสการติดเชื้อโควิด-19 ให้แก่พนักงาน ครอบครัวของพนักงาน และชุมชนโดยรอบ การช่วยเหลือชุมชนและสังคมให้ผ่านพ้นวิกฤติครั้งนี้ ถือเป็นหนึ่งในภารกิจที่สำคัญของเรา ในฐานะที่เราเป็นพลเมืองของสังคมไทย โดยโครงการ Factory Sandbox ช่วยให้ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ในฐานะที่เป็นหนึ่งในผู้ส่งออกรายใหญ่ที่สุดของประเทศ สามารถดำเนินการผลิตได้อย่างต่อเนื่อง สนับสนุนให้เศรษฐกิจของประเทศไทยสามารถกลับมาฟื้นตัวได้ ที่ผ่านมา มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ได้มีแนวทางการปฏิบัติและมาตรการเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดภายในโรงงานของเราอย่าง ‘เคร่งครัด’ และ ‘ต่อเนื่อง’ ไม่ว่าจะเป็น นโยบายการ Work From Home การสวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่างระหว่างบุคคล การล้างมือ รวมถึงการใช้แบบฟอร์มในการคัดกรองหรือ Online Screening และการตรวจ ATK เชิงรุกภายในสถานประกอบการ เพื่อตรวจคัดกรองภายในองค์กรเป็นประจำทุกวัน ตลอดจนจัดสรรการฉีดวัคซีนแบบกลุ่ม ให้แก่พนักงานของเรา”

สำหรับขอบข่ายความร่วมมือภายใต้โครงการ Factory Sandbox กระทรวงแรงงานจะเป็นผู้ดำเนินการสำรวจและประเมินมาตรการการปฏิบัติตามแนวทางของโครงการฯ ของศูนย์การผลิตรถยนต์มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ที่แหลมฉบัง พร้อมรายงานผลการตรวจต่อคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดชลบุรี ในขณะที่โรงพยาบาลวิภารามจะดำเนินการตรวจคัดกรองเชื้อโควิด-19 ให้พนักงานทั้งหมดภายในศูนย์การผลิตฯ รวมถึงคัดแยกผู้ป่วยเพื่อเข้ารับการรักษาตามเกณฑ์กลุ่มสีและดำเนินการฉีดวัคซีนแก่พนักงานทุกคนที่ตรวจไม่พบเชื้อ โดย มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย จะให้ความร่วมมือผ่านการจัดหาสถานที่กักตัวพนักงานที่ติดเชื้อหรือมีความเสี่ยงสูง ตลอดจนดำเนินการตามมาตรการและข้อปฏิบัติต่างๆ ที่ระบุไว้อย่างเคร่งครัด นับตั้งแต่การตรวจ รักษา ดูแล และควบคุม

สำหรับโปรแกรมการฉีดวัคซีนให้แก่พนักงานของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย รวมถึงพนักงานของบริษัท ซัพพลายเออร์ที่ทำงานในพื้นที่ของศูนย์การผลิตฯ จะมีการดำเนินการทั้งในส่วนภายใต้ข้อตกลงของโครงการ Factory Sandbox ที่วางเป้าหมายให้มีการฉีดวัคซีน แอสตร้าเซนเนก้า (AstraZeneca) ให้แก่พนักงานที่มีคุณสมบัติครบตามกำหนด รวมกว่า 1,900 คน และในส่วนของบริษัทฯ เอง ที่มีการจัดหาวัคซีนสำหรับพนักงานจากช่องทางต่างๆ ซึ่งด้วยการสนับสนุนของโครงการ Factory Sandbox ทำให้บริษัทฯ จะสามารถบรรลุเป้าหมายของการฉีดวัคซีนให้แก่พนักงานทุกคนจนครบ 2 เข็ม ภายในสิ้นปี 2564 นี้

ศูนย์การผลิตมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย เป็นศูนย์กลางการผลิตที่มีความสำคัญและมีขนาดใหญ่ที่สุดของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่นทั่วโลก ประกอบด้วยโรงงานผลิตรถยนต์ 3 แห่ง และโรงงานผลิตเครื่องยนต์ 1 แห่งในนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี มีกำลังการผลิตสูงสุดถึง 424,000 คันต่อปี สร้างการจ้างงานมากกว่า 6,200 ตำแหน่ง รวมถึงแรงงานในกระบวนการที่เกี่ยวข้องกับการผลิตรถยนต์อีกกว่า 400,000 คน อีกทั้งยังเป็นผู้ผลิตและส่งออกรถยนต์ที่ผลิตขึ้นด้วยฝีมือคนไทยเป็นรายแรก และถือเป็นหนึ่งในผู้นำด้านการส่งออกรถยนต์ของประเทศไทย ปัจจุบันบริษัทฯ มียอดการส่งออกรถยนต์สะสมแล้วมากกว่า 4.4 ล้านคัน (ตั้งแต่ปี 2531-2564) เพื่อการส่งออกไปจำหน่ายทั่วโลกกว่า 120 ประเทศ โดยศูนย์การผลิตแห่งนี้ ยังเป็นศูนย์การผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม มีการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ในสายการผลิตรถยนต์ โดยติดตั้งแผงโซลาร์บนหลังคาโรงงานที่มีกำลังการผลิตถึง 5 เมกะวัตต์ พร้อมกันนี้ ยังมีการพัฒนารถยนต์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่าง มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี ซึ่งเป็นรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดสัญชาติญี่ปุ่นรุ่นแรกที่ผลิตขึ้นในประเทศไทย

ในปีนี้ ศูนย์การผลิตแหลมฉบังผลิตรถยนต์ครบ 6 ล้านคัน นับเป็นฟันเฟืองสำคัญนการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยานยนต์ของประเทศไทยและจะยังคงเดินหน้าทำการผลิตภายใต้มาตรการป้องกันและควบคุมอย่างเคร่งครัด เพื่อรักษาเสถียรภาพการดำเนินธุรกิจภายใต้สถานการณ์ท้าทายต่างๆ และร่วมเป็นหนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์ที่สร้างความเติบโตอย่างต่อเนื่องให้กับอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศอย่างยั่งยืน

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *