ในงาน Thailand International Motor Expo 2022
เรนาสโซ มอเตอร์ (Renazzo Motor) ผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ลัมโบร์กินีอย่างเป็นทางการรายเดียวในประเทศไทย เปิดตัวไอคอนิกความแรงใหม่ล่าสุดจากแบรนด์กระทิงดุ “Lamborghini Urus Performante” ปรากฏการณ์ใหม่แห่งสุดยอดสมรรถนะและสัมผัสการขับขี่แนวสปอร์ตในแบบฉบับซูเปอร์เอสยูวี ในงาน Thailand International Motor Expo 2022 ระหว่างวันที่ 1– 12 ธันวาคม 2565 ณ อิมแพ็ค อารีนา เมืองทองธานี บูธ B01-1 ด้วยรูปลักษณ์ที่สะท้อนถึงความหรูหราเหนือระดับของรถยนต์ Urus พร้อมสะกดทุกสายตาทั้งบนท้องถนน สนามแข่งขัน หรือแม้แต่บนเส้นทางสุดทรหด ซึ่งทำให้ Urus Performante คือมิติใหม่แห่งสุดยอดงานดีไซน์อันเปี่ยมพลัง ที่ผสานระบบวิศวกรรมยานยนต์ระดับซูเปอร์สปอร์ตไว้อย่างลงตัว นอกจากนี้ภายในงานยังมีการจัดแสดง Lamborghini Huracán STO ซูเปอร์สปอร์ตคาร์ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากรถแข่ง ด้วยเครื่องยนต์ V10 แบบ NA ที่มาพร้อมรูปลักษณ์การออกแบบที่สวยงามอย่างน่าหลงใหล มาจัดแสดงร่วมด้วย
งานเปิดตัว Lamborghini Urus Performante ได้รับเกียรติจาก ฟรานเชสโก้ สคาร์ดาโอนี่ ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ออโตโมบิลิ ลัมโบร์กินี บินตรงแบบเอ็กซ์คลูซีฟมายังประเทศไทยเพื่อร่วมเปิดตัวยนตรกรรมรุ่นใหม่ล่าสุดนี้ โดยกล่าวว่า “เราภาคภูมิใจที่ได้นำเสนอ Urus Performante ให้แก่ลูกค้าคนสำคัญและสื่อมวลชนในกรุงเทพฯ ได้สัมผัสตัวจริงกันอย่างใกล้ชิดในวันนี้ Urus Performante คือการยกระดับสมรรถนะการขับขี่และรูปลักษณ์ที่หรูหราของรถยนต์เอสยูวีลัมโบร์กินีให้เหนือขึ้นไปอีกขั้น โดยยังคงรักษามาตรฐานการใช้งานแบบอเนกประสงค์ที่หรูหราสะดวกสบาย และผสานประสบการณ์การขับขี่ที่เป็นหนึ่งเดียวกับรถยนต์ไว้อย่างสมบูรณ์แบบ ซึ่งไม่เพียงเฉพาะการใช้งานบนท้องถนนประจำวัน แต่ยังมอบความโดดเด่นบนทุกเส้นทางด้วยดีไซน์อันหรูหราน่าประทับใจ จนถือเป็นเกณฑ์สมรรถนะใหม่ของวงการรถยนต์ระดับโลกเลยทีเดียว”
อภิชาติ ลีนุตพงษ์ ประธานกรรมการ บริษัท เรนาสโซ มอเตอร์ จำกัด ผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ลัมโบร์กินีอย่างเป็นทางการรายเดียวในประเทศไทย กล่าวว่า “หลังจากลัมโบร์กินีได้เผยโฉม Lamborghini Urus Performante พร้อมกันทั่วโลก เมื่อ 3 เดือนที่ผ่านมา ในวันนี้นับเป็นโอกาสอันดีที่สาวกกระทิงดุในเมืองไทยจะได้ยลโฉม Lamborghini Urus Performante คันจริงเป็นครั้งแรกกันอย่างใกล้ชิดในงาน Thailand International Motor Expo 2022 โดย Lamborghini Urus Performante เป็นสุดยอดสมรรถนะซูเปอร์เอสยูวีเพื่อการขับขี่ที่เร้าใจ ซึ่งเรามั่นใจว่าโมเดลรุ่นใหม่ล่าสุดนี้จะตอบโจทย์ทุกประสบการณ์การขับขี่และได้การตอบรับที่ดีจากแฟน ๆ ลัมโบร์กินีทั่วประเทศอย่างแน่นอน”
สุดยอดงานออกแบบเพื่อสมรรถนะขั้นสูง
Urus Performante สะกดทุกสายตาตั้งแต่แรกเห็นด้วยดีไซน์แนวอากาศยานในทุกมุมมอง โดดเด่นตั้งแต่รูปลักษณ์ด้านหน้า ด้วยฝากระโปรงและแผงกันชนขนาดใหญ่ที่เฉียบคม เพื่อสื่อถึงดีเอ็นเอสายพันธุ์ซูเปอร์สปอร์ตใน Performante อย่างเด่นชัดโดยยังคงแฝงกลิ่นอายแห่งความหรูหราภูมิฐานของรถยนต์ Urus ไว้อย่างกลมกลืน นอกจากนี้ Urus Performante ยังเน้นการใช้วัสดุคอมโพสิตในการผลิต ทำให้เป็นรถยนต์ที่ใช้วัสดุคาร์บอนไฟเบอร์มากที่สุดในรถยนต์เซกเมนต์เดียวกัน
“งานดีไซน์ที่ดุดันและโดดเด่นของ Urus Performante ผสานเข้ากับหลักอากาศพลศาสตร์ที่ปรับปรุงใหม่ได้อย่างยอดเยี่ยม ซึ่งทั้งสองด้านต่างช่วยส่งเสริมซึ่งกันและกัน โดยเฉพาะม่านอากาศบนแผงกันชนหน้ากับงานออกแบบแนวใหม่เพื่อมอบความสวยงามที่แตกต่าง รวมถึงฝากระโปรงคาร์บอนไฟเบอร์น้ำหนักเบา และการใช้วัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ในส่วนต่าง ๆ เกือบทั้งหมดซึ่งถือเป็นแบบฉบับการสร้างสรรค์รถยนต์ Performante ที่เป็นเอกลักษณ์ของลัมโบร์กินี ทำให้ Urus Performante คือซูเปอร์เอสยูวีที่ผสานความเป็นหนึ่งเดียวกับนักขับได้อย่างสมบูรณ์แบบ” มิตจา โบร์เคิร์ต ผู้อำนวยการฝ่ายการออกแบบ กล่าว
Urus Performante มีการออกแบบเส้นสายบนฝากระโปรงให้ยาวต่อเนื่องลงมาถึงแผงกันชนหน้าดีไซน์ใหม่ และมาพร้อมช่องระบายลมวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์สีเดียวกับตัวรถ โดยลูกค้าสามารถเลือกแบบโชว์ลายคาร์บอนไฟเบอร์ได้ ทั้งยังสามารถเลือกหลังคาเป็นลายคาร์บอนไฟเบอร์ให้เหมือนกับซูเปอร์สปอร์ตคาร์ของลัมโบร์กินีอย่าง Huracán Performante และ Super Trofeo ได้ตามต้องการ
แผงกันชนหน้าและสปลิตเตอร์วัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ถูกออกแบบให้มีเส้นสายใหม่ที่ดูดุดันกว่าเดิม ช่องดักอากาศสีดำด้านหน้าช่วยเสริมประสิทธิภาพการระบายความร้อนเครื่องยนต์พร้อมเพิ่มความดุดันแนวซูเปอร์สปอร์ตอันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ ม่านดักลมแบบใหม่นั้นทำให้อากาศไหลเข้าทางล้อหน้าได้มากขึ้น และผสานกับการออกแบบตรงช่องระบายลมบนฝากระโปรง ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพด้านอากาศพลศาสตร์พร้อมทำให้เครื่องยนต์เย็นลง ส่วนสปอยเลอร์ด้านหลังดีไซน์ใหม่ยังช่วยเพิ่มแรงกดด้านหลังของ Urus Performante ได้อีก 38%
การออกแบบสปริงใหม่ช่วยให้โครงแชสซีของ Performante ต่ำลงอีก 20 มม. และเพิ่มความกว้างฐานล้อขึ้นอีก 16 มม. ซุ้มล้อวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ สามารถจับคู่กับล้อน้ำหนักเบาขนาด 23 นิ้วหรือแบบมาตรฐาน 22 นิ้ว พร้อมน็อตไทเทเนียมและยาง Pirelli ที่พัฒนาขึ้นเพื่อรุ่นนี้โดยเฉพาะ
Urus Performante ลดความสูงลงเพื่อเสริมภาพลักษณ์ที่บึกบึนด้วยการออกแบบกันชนหน้าและหลังขนาดใหญ่ ซึ่งเพิ่มความยาวตัวรถ 25 มม. การออกแบบด้านหลังมีความสวยงามไม่แพ้ด้านหน้าด้วยสปอยเลอร์ขนาดใหญ่และการออกแบบฟินสปอยเลอร์หลังที่ทำจากวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ซึ่งได้แรงบันดาลใจจากรุ่น Aventador SVJ ทำหน้าที่ช่วยเพิ่มแรงกดให้ตัวรถ
กันชนหลังและดิฟฟิวเซอร์ใช้วัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ มาพร้อมกับท่อไอเสีย Akrapovic วัสดุไทเทเนียมน้ำหนักเบาเป็นมาตรฐาน ช่วยเพิ่มพลังเสียงที่กระหึ่มทรงพลังอันเป็นเอกลักษณ์ของลัมโบร์กินี และเสียงจะแตกต่างไปตามโหมดการขับขี่ที่เลือก ยิ่งไปกว่านั้นการใช้ธีมสีทูโทนยังช่วยเสริมภาพลักษณ์ของ Performante ให้โดดเด่นขึ้น จากการทำชิ้นส่วนอื่น ๆ ให้มีสีแตกต่างจากตัวรถ ทั้งมือจับประตูสีดำ ช่องระบายลมคาร์บอนไฟเบอร์เคฟลาร์บนฝากระโปรงและสปอยเลอร์ลิปคาร์บอนไฟเบอร์เคฟลาร์ เป็นต้น
การออกแบบห้องโดยสารภายในตกแต่งด้วย Alcantara สีดำ Nero Cosmus เป็นมาตรฐาน พร้อมเบาะลายหกเหลี่ยมในสไตล์ “Performante Trim” นอกจากนี้ยังเลือกออปชันเสริมได้จากการตกแต่งด้วยหนัง และสีสันภายใน โดยสามารถเลือกสไตล์ “Performante Trim” ทั้งในส่วนประตู เส้นแนวหลังคา พนักพิง และด้านหลังเบาะคู่หน้า รวมถึงโปรแกรมการตกแต่งเฉพาะแบบ Ad Personam ของลัมโบร์กินีที่มีตัวเลือกวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ผิวด้านเพื่อการตกแต่งภายใน มือจับประตูสีแดง และขอบประตู Ad Personam พวงมาลัยมาตรฐานเป็น Alcantara สลับหนังสีดำตกแต่งด้วยโทนสีดำด้านให้เข้ากับห้องโดยสารธีมอลูมิเนียมชุบดำ สำหรับออปชั่น “Dark Package” จะสามารถเลือกการตกแต่งโทนสีดำด้านให้ครอบคลุมรายละเอียดของห้องโดยสารส่วนอื่น ซึ่งรวมถึงส่วนก้านของแผงควบคุมกลาง TAMBURO ที่ควบคุมฟังก์ชั่นทั้งปุ่มเปิด/ปิดเครื่องและตัวเลือกโหมดการขับขี่ต่าง ๆ ส่วนการแสดงผลกราฟิก HMI เป็นแบบใหม่ที่ออกแบบสำหรับ Urus Performante โดยเฉพาะ
สุดยอดระบบวิศวกรรมเพื่อการขับขี่ที่เหนือระดับ
“Urus Performante เปรียบเสมือนนักกีฬาน้ำหนักเบาที่เปี่ยมไปด้วยพละกำลัง มาพร้อมรูปทรงที่แข็งแรงบึกบึน ดีไซน์สวยงามโดดเด่น เครื่องยนต์ V8 Twin Turbo และท่อไอเสียแบบสปอร์ตน้ำหนักเบา ที่ดึงดูดทุกคู่สายตาและมอบประสบการณ์สุดเร้าใจทั้งบนถนน ในสนามแข่งขัน หรือแม้แต่บนเส้นทางวิบาก ทำให้ Urus Performante เป็นสุดยอดเอสยูวีสำหรับนักขับซูเปอร์สปอร์ตคาร์ตัวจริง” รูเว็น โมห์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคนิค กล่าว
Urus Performante มาพร้อมกับกำลังเครื่องยนต์เพิ่มขึ้น 16CV สูงสุดที่ 666CV และลดน้ำหนักลง 47 กก. ทำให้มีอัตราส่วนน้ำหนักต่อกำลังเครื่องยนต์ดีที่สุดในคลาสที่ 3.2 กิโลกรัม/แรงม้า ทำอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 3.3 วินาที และเบรกจากความเร็ว 100 กม./ชม. จนรถหยุดนิ่งได้ในระยะทางเพียง 32.9 เมตร Urus Performante สามารถทำความเร็วสูงสุดที่ 306 กม./ชม. พร้อมประสิทธิภาพการตอบสนอง การควบคุม และความเสถียรที่เหนือชั้น จากการปรับปรุงประสิทธิภาพด้านอากาศพลศาสตร์ โดยเพิ่มแรงกดรวมได้ 8%
ยาง Pirelli P Zero (ขนาด 258/40 R22 และ 325/35 R22) เป็นรุ่นมาตรฐานและยังมี Pirelli P Zero Trofeo R เป็นครั้งแรกสำหรับตระกูล Urus เพื่อให้สอดคล้องกับคาแรกเตอร์ของรถเอสยูวี ซึ่งเกิดจากการร่วมมือพัฒนากับลัมโบร์กินี ผลลัพธ์ของความร่วมมือครั้งนี้ทำให้ได้ยางที่ใช้งานได้แบบอเนกประสงค์ดียิ่งขึ้น แต่ยังคงมอบประสิทธิภาพที่ดีเยี่ยมทั้งบนพื้นผิวแห้งและเปียก
สำหรับระบบบังคับเลี้ยว Urus Performante มอบสัมผัสใหม่แก่ผู้ขับให้รู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกับรถยนต์และท้องถนนมากขึ้น ด้วยการควบคุมที่ตอบสนองฉับไวและฟีลแบบสปอร์ตอันเร้าใจในทุกจังหวะการควบคุม การคาลิเบรตแบบใหม่ช่วยเพิ่มสัมผัสเชื่อมโยงกับพื้นถนนส่งผลให้การควบคุมแม่นยำและมอบการตอบสนองได้ทันที ระบบเลี้ยวล้อหลังที่ตอบสนองเร็วขึ้นยังช่วยเพิ่มความฉับไวในการเลี้ยว ไม่ว่าจะใช้โหมดการขับขี่บนถนนหรือออฟโร้ด
โหมดการขับขี่ที่ถูกออกแบบใหม่ทำให้ผู้ขับขี่ Urus Performante สามารถเลือกการตั้งค่าที่เหมาะสมกับสภาพการขับขี่ที่แตกต่างได้ในทุกวัน โดยในโหมด STRADA ให้สัมผัสการขับขี่ที่หรูหราและสะดวกสบายด้วยการซับแรงที่นุ่มนวล ส่วนในโหมด SPORT นักขับจะได้เพลิดเพลินกับการตอบสนองที่ดุดันสะใจ ระบบเลี้ยวล้อหลังจะเพิ่มความคล่องตัวในความเร็วต่ำและเพิ่มความเสถียรเมื่อใช้ความเร็วสูง และด้วยการปรับช่วงล่างใหม่ยังเพิ่มความสนุกสนานทั้งในระหว่างการขับและทุกการเปลี่ยนเกียร์ การตั้งค่าแชสซีเพื่อเสริมฟีลการขับขี่แบบสปอร์ตยังครอบคลุมถึงการใช้สปริงเหล็กกล้าที่แข็งขึ้นและการปรับแต่งแดมเปอร์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการตอบสนองให้นักขับรู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกับรถยนต์
โหมด CORSA ใน Urus Performante ตอบโจทย์การแข่งขันอันดุเดือดด้วยประสิทธิภาพการควบคุมขั้นสูงสุด ทั้งความเสถียรเมื่อขับขี่ความเร็วสูง การเลี้ยวที่เสริมประสิทธิภาพด้วยเหล็กกันโคลงแบบแอ็กทีฟ พร้อมพลังเสียงสุดกระหึ่มของท่อไอเสียแบบสปอร์ตที่ทั้งนักขับและทุกคนในสนามจะได้รับรู้ถึงความเป็นซูเปอร์สปอร์ตคาร์ของลัมโบร์กินี
นอกจากโหมดการขับขี่มาตรฐานต่าง ๆ Urus Performante ยังมาพร้อมโหมดใหม่อย่าง RALLY เพื่อยกระดับการขับขี่แนวสปอร์ตที่สนุกสนานในแบบฉบับเอสยูวี และนำเสนออีกระดับของความตื่นเต้นเร้าใจในการวิ่งบนทางวิบาก โดยมีการเสริมสมรรถนะด้วยเหล็กกันโคลงและตัวซับแรง ซึ่งปรับปรุงให้สอดรับกับการทำงานของสปริงแม้วิ่งบนพื้นผิวขรุขระและหฤโหด ให้คุณสัมผัสมิติใหม่แห่งประสิทธิภาพซูเปอร์เอสยูวีสายพันธุ์สปอร์ตที่แท้จริง
สำหรับตลาดจีนจะได้รับการอัปเกรดเชิงเทคนิคใน Urus Performante รุ่นใหม่ โดยจะถูกตั้งค่ากำลังเครื่องยนต์ไว้ที่ 640CV ตามข้อกำหนด
Technical Data
CHASSIS AND BODY |
|
Chassis | Integral lightweight body in aluminum composite design |
Body shell | Outer skin made from aluminum and composite material |
Suspension | Multi-link front and rear |
Springs and dampers | Steel springs and dampers, electromechanical active roll stabilization, electronic damper control |
Electronic Stability Control (ESC) | ESC/ABS characteristics can be adjusted via TAMBURO, |
Steering | Electromechanical power steering, steering gear with different servotronic characteristics and Lamborghini Rear-wheel Steering (LRS), managed by the Tamburo drive modes |
Steering wheel ratio | 13.3:1 |
Brakes | Front and Rear carbon-ceramic brakes discs with front monoblock aluminum 10 piston brake calipers and rear cast iron floating 1 piston brake calipers with integrated electric parking brake |
Brake discs | Carbon ceramic discs, ventilated Ø 440 x 40 mm front Ø 370 x 30 mm rear |
Tires (standard) | PIRELLI PZERO 285/40 ZR22 (front) – 325/35 ZR22 (rear) |
Wheels (standard) | 10Jx22″ ET20 (front) 11,5Jx22″ ET14 (rear) |
Mirrors | Electrically controlled exterior mirrors |
Airbags | Up to 8 Airbags: front driver and passengers airbag, front and rear side airbags, curtain airbag for head protection |
ENGINE |
|
Type | Eight -cylinder V, 90° |
Displacement | 3.996 cm3 |
Bore / stroke | Ø 86 mm x 86 mm |
Valve control | Intake and exhaust camshafts with continually variable adjustment |
Turbocharger | Bi-turbo twin-scroll |
Compression | 9.7: 1 |
Max. power | 490 kW / 666 CV at 6,000 rpm |
Max. torque | 850 Nm at 2,300-4,500 rpm |
Emissions class | EURO 6 |
Exhaust treatment | 4 catalyst with lambda regulation |
Cooling system | Water cross flow cooling |
Engine Management | Bosch
|
DRIVETRAIN |
|
Type | 4WD with integrated front differential, central differential (Torsen) and active torque vectoring rear differential |
Transmission | 8-speed automatic gearbox, characteristic depending on TAMBURO drive mode |
PERFORMANCE |
|
Top Speed | 306 km/h |
0–100 km/h | 3.3 s |
0–200 km/h | 11.5 s |
Braking (100-0 km/h) | 32.9 m |
DIMENSIONS |
|
Wheelbase | 3,006 mm |
Length | 5,137 mm |
Width | 2,026 mm |
Width (incl. ext. mirrors) | 2,181 mm |
Height | 1,618 mm |
Track front | 1,711 mm |
Track rear | 1,718 mm |
Kerb-to-kerb turning circle | 11.8 m – average value, variable due to dynamic condition, thanks to Lamborghini Rear-wheel Steering (LRS) |
Weight (DIN) | 2,150 kg |
Weight/power | 3.23 kg/CV |
Weight Distribution | 58% (front) – 42% (rear) |
CAPACITIES |
|
Fuel | 85 liters |
Trunk | 616 liters |
CONSUMPTION | The vehicle is not yet offered for sale and is therefore not subject to Directive 1999/94/EC. The fuel consumption and emissions data are in the type of approval stage |